top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนattempt pai

Samson


หนัง HD

รีวิว Samson - แซมซั่น มนุษย์พลังเทพ


“Samson แซมซั่น โคตรคนจอมพลัง” เรื่องราวของชายหนุ่มแห่งเผ่าดานที่เกิดมาพร้อมกับพละกำลังมหาศาล “คนเดียวล้มราชสีห์ด้วยมือเปล่า คนเดียวโค่นศัตรูทั้งกองทัพ” เขาคือวีรบุรุษที่พระเจ้าเลือกให้เป็นผู้ปลดปล่อยผู้คนให้พ้นจากการเป็นทาส นำไปสู่ความขัดแย้งกับกองทัพคนเถื่อนจากกองทัพมหาอำนาจ “ฟิลิสเตีย” มีเพียงศรัทธาในพระเจ้าและพลังแห่งเทพของแซมซั่นเท่านั้นที่จะพาเขาฝ่าวิกฤตสงครามการนองเลือดนี้ไปได้ รีวิว Samson


เรื่องย่อ


ในยุคสมัยที่ชาวฮิบรูต้องถูกรุกรานโดยกองทัพฟีลิสตีน พระเจ้าได้กำหนดชะตากรรมให้ แซมซั่น (เทย์เลอร์ เจมส์) บุรุษผู้มีพละกำลังมหาศาลมาเป็นผู้ปลดปล่อยชาวฮิบรูทั้งมวล แต่เขากลับอยากเลือกทางสันติภาพด้วยความรักที่มีต่อ ทาเร็น (ฟรานเซส โซลโด ดั๊กลาส) สาวรับใช้ของ ราลลาห์ (แจ๊คสัน รัทซ์โบน) เจ้าชายโฉดแห่งอาณาจักรฟีลิสตีน โดยหารู้ไม่ว่า ราลลาห์วางแผนหวังกำจัดแซมซั่นและหวังขึ้นครองบัลลังก์เพื่อปราบชาวฮิบรูให้สิ้นซาก งานนี้แซมซั่นต้องพิสูจน์ให้พระเจ้าได้เห็นว่าเขาคู่ควรกับพลังที่ได้มาดั่งพระประสงค์อย่างแท้จริง


วันที่เขากำเนิดทูตสวรรค์มาเข้าฝันแม่ของเขาว่า “เด็กคนนี้เป็นผู้ที่ได้รับพลังพิเศษจากทวยเทพ” และเมื่อชนชาติอิสราเอลตกเป็นทาสของกองทัพคนเถื่อน ผู้ถูกเลือกจาก “พระเจ้า” อย่าง “แซมซั่น” ชายหนุ่มผู้ครองพลังที่ไม่มีมนุษย์คนไหนจะต่อกรได้ เขาคือฮีโร่เพียงหนึ่งเดียวที่จะก่อสงครามแย่งชิงอิสระภาพคืนมาให้มนุษย์โลก!


พลังเทพเจ้าของแซมซั่นแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวที่สุด พละกำลังกล้ามเนื้อของเขาที่สามารถสังหารสิงโตหนึ่งตัวได้อย่างง่ายดาย ตามตำนานเล่าว่า ระหว่างที่แซมซั่นกำลังเดินทางกลับบ้าน เขาพบสิงโตตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาทำร้าย แต่ด้วยพละกำลังอันแข็งแกร่ง ทำให้เขาง้างปากสิงโตฉีกขาดจนมันตายคาที่ได้ในไม่กี่นาที และด้วยพลังที่เหนือมนุษย์แซมซั่นสามารถสยบทหารทั้งกองทัพได้ด้วยตัวเขาคนเดียว

โดยหนังนั้นจะเล่าถึงสมัยที่ชาวฮิบรู ผู้ถูกผู้รุกรานโดยกองทัพฟีลิสตีน พระเจ้าได้กำหนดชะตากรรมให้ แซมซั่น บุรุษผู้มีพละกำลังมหาศาลมาเป็นผู้ปลดปล่อยชาวบ้านทั้งเมือง แต่เขากลับเลือกเส้นทางสันติด้วยความรัก ที่มีต่อสาวรับใช้ของเจ้าชายโฉด แห่งอาณาจักรศัตรู โดยหารู้ไม่ว่าเขาได้ถูกหลอกแล้วถูกวางแผนกำหนด กำจัด แซมซั่น และหวังขึ้นครองบัลลังก์เพื่อปราบชาวฮิบรู ให้สิ้นซากงานนี้แซมซั่นต้องพิสูจน์ให้พระเจ้าได้เห็นว่า เขาคู่ควรกับพลังที่ได้มาดังพระประสงค์อย่างแท้จริง


ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะดูคล้ายคลึง กับหนังแนวเทพจอมพลังอย่าง เฮอร์คิวลิส มากแต่ความจริงแล้วนั้นเพราะเรื่องได้ เอามาจากคัมภีร์ไบเบิลของชาวฮิบรู ที่กล่าวถึงแซมซั่นตุลาการในยุคอิสราเอลโบราณ ซึ่งถูกอ้างในส่วนของหนังสือ ซึ่งมีเป็นหนังแล้วในปี 1949 ไม่เคยถูกดัดแปลงสู่ภาพยนตร์มาแล้ว ครั้งหนึ่งซึ่งหนังเวอร์ชั่นนี้ จะดึงเอาเหตุการณ์หลายส่วนมาจากคัมภีร์ไม่น้อย ทั้งการฉีกปากสิงโต กินน้ําผึ้งจากซี่โครงสิงโต สังหารทหาร 30 นาย โดยภาพรวมคือการทำให้ภาพลักษณ์ของ แซมซั่น ดูเป็นฮีโร่มากกว่าบุคคลในประวัติศาสตร์นั้นเอง


ซึ่งข้อดีสำคัญเท่าที่สังเกตได้เลย คือเรื่องเล่าอภินิหารต่างๆ ที่ทำให้ดูเป็นเรื่องราว เชิงศาสนาดูได้อย่างเพลิดเพลินเหมือนซีรีย์ ในสมัยก่อน ซึ่งด้วยคุณภาพโปรดักชั่นในปัจจุบัน ก็เชื่อเพื่อให้ภาพจินตนาการถูกสร้างสรรค์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก แต่ปัญหาสำคัญกับไปตกที่บทภาพยนตร์ ในการสร้างตัวละคร และงานกำกับหนังแทนซะอย่างนั้น


โดยปัญหาที่สำคัญของหนังเลย คือเรื่องของบทหนังที่ต้องร้อยเรียงเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตของแซมซั่น ที่ถูกกล่าวอ้างในคัมภีร์ให้ได้ครบถ้วน และเสริมแต่งเรื่องราวให้มีสีสัน มากยิ่งขึ้นแต่ไอ้ที่ใส่เพิ่มเข้ามากับไม่ ช่วยให้เรารู้จักจำสั้นมากนักเท่าไหร่ มิหนำซ้ำเหตุการณ์จากคัมภีร์เองก็ไม่ได้ดูมีตรรกะ อะไรมากพอเราเลยได้เห็น แซมซั่น ตัดสินใจพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า หลายเหตุการณ์เข้าขั้นโง่บัดซบเลยก็ว่าได้ แบบต้องกุมขมับเลยทีเดียว


แม้หน้าหนังของ SAMSON จะดูคล้ายคลึงกับหนังแนวเทพจอมพลังอย่าง เฮอร์คิวลิส มาก แต่ความจริงแล้วพลอตเรื่องได้เอามาจาก คัมภีร์ไบเบิลของชาวฮิบรู ที่กล่าวถึง แซมซัน ตุลาการในยุคอิสราเอลโบราณซึ่งถูกอ้างถึงในส่วนของบุ๊คออฟจัดจ์ (Book of Judge) ซึ่งเคยมีหนัง Samson and Delilah (1949) ที่เคยดัดแปลงสู่จอภาพยนตร์โดยซีซีล บี เดอมิลล์ มาครั้งหนึ่งแล้ว


ซึ่งหนังเวอร์ชั่นนี้ก็ดูจะดึงเอาเหตุการณ์หลายส่วนมาจากคัมภีร์ไม่น้อยทั้งการฉีกปากสิงโต กินน้ำผึ้งจากซี่โครงสิงโต สังหารทหาร 30 นาย แต่โดยภาพรวมคือการทำให้ภาพลักษณ์ของแซมซั่นดูเป็นซูเปอร์ฮีโร่มากกว่าบุคคลในประวัติศาสตร์ ซึ่งข้อดีสำคัญเท่าที่สังเกตได้เลยคือเรื่องราวอภินิหารต่างๆทำให้เราดูเรื่องราวเชิงศาสนาได้อย่างเพลิดเพลินเหมือนซีรีส์โคแนนทางทีวีสมัยก่อน ซึ่งด้วยคุณภาพโปรดักชั่นในปัจจุบันก็เอื้อเฟื้อให้ภาพจินตนาการถูกรังสรรค์ได้ง่ายขึ้นมากด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก แต่ปัญหาสำคัญกลับไปตกที่บทภาพยนตร์ การสร้างตัวละคร และงานกำกับของหนังแทน


ปัญหาสำคัญของบทหนัง SAMSON คือการต้องร้อยเรียงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตแซมซั่นที่ถูกกล่าวอ้างในคัมภีร์ให้ได้ครบถ้วนและเสริมแต่งเรื่องราวให้มีสีสันมากขึ้น แต่ไอ้ที่ใส่เพิ่มเข้ามากลับไม่ได้ช่วยให้เรารู้จักแซมซั่นนัก มิหนำซ้ำเหตุการณ์จากคัมภีร์เองก็ยังดูไม่มีตรรกะมากพอ เราเลยได้เห็นแซมซั่น ตัดสินใจพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า


หลายเหตุการณ์เข้าขั้นโง่บัดซบแบบต้องกุมขมับเลยล่ะ ตั้งแต่การหลงรักผู้หญิงฟีลิสตีนที่เป็นทาสรับใช้เจ้าชายชั่ว ตัวเองก็ดันไปตกหลุมแผนของเจ้าชายทั้งที่รู้ว่าเป็นคนชั่วขนาดไหนแบบไม่เอะใจเลยเหรอ มิหนำซ้ำตอนท้ายเรื่องที่แซมซั่นไปหลงรัก เมียของเจ้าชายก็ไม่เอะใจอีกว่านางอยู่ตอนเมียคนแรกตาย เรียกได้ว่าตกม้าตายเพราะความหื่นแท้ๆเลย 555


ส่วนการสร้างหนัง HDตัวละครในหนัง SAMSON เรียกได้ว่าแบนสนิท ตั้งแต่แซมซั่นเองที่เราก็ไม่ได้เห็นด้านที่ฉลาดหรือเป็นผู้นำสักนิดนอกจากความหื่นและพละกำลังมหาศาลแล้ว เราเลยไม่มีอะไรให้เอาใจช่วยพระเอกคนนี้ซักเท่าไหร่ ยิ่งตัวเจ้าชายราลลาห์เนี่ย โห..คือชั่วแบบบริสุทธิ์ ทั้งเรื่องหวังแต่จะเคลมบัลลังก์พ่อ  รีดนาทาเร้นกับชาวฮิบรู แถมคิดแต่จะกำจัดแซมซั่นทั้งเรื่อง สงสัยทีมบทน่าจะยึดละครหลังข่าวบ้านเราเป็นต้นแบบการเขียนบทซะหละมั้ง?


และในเมื่อบทจอดสนิท งานกำกับเองก็พลอยมีปัญหาไปด้วยเพราะบรูซ แมคโดนัลด์กับเกเบรียล เซบลอฟ ไม่สามารถคุมจังหวะหนังได้เลย มีหลายช่วงที่หนังเล่าไปแบบไม่มีทิศทางและขัดขากันเอง ฉากหนึ่งเป็นฉากรักหวานซึ้ง อีกฉากตัดไปให้เห็นความชั่วของเจ้าชาย ราลลาห์ แล้วก็ตัดมาเล่าฉากรักหวานซึ้งของคู่เดิมอีก


จนเห็นเลยว่าส่วนโรแมนติกกลายเป็นส่วนเกิน ยิ่งการพยายามดูหนังผ่านเน็ตจะปูภาพลักษณ์หนุ่มโรแมนติกสุดหล่อให้ เทย์เลอร์ เจมส์ ในบทแซมซั่นที่หน้าผมเสื้อผ้าดูพังยับ แทนที่คนดูจะได้เคลิ้มกลับขำแทนซะงั้น หรือการกำกับฉากแอ็คชั่นที่ไม่ได้มีความสมจริงแต่อย่างใด แถมยังดูสับสน ชวนมึน แถมยังลากยาวจนดูน่าหัวเราะอีก


แล้วพอตัดสลับไปเล่าฉากดราม่าก็ไม่ได้ชวนให้เกิดอารมณ์ร่วมแต่อย่างใด จนมันกลายเป็นแค่หนังศาสนาที่เอาแอ็คชั่นแฟนตาซีมาบังหน้าเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหนังสร้างตามหลังหนังอย่าง Ben-Hur ฉบับปี 1959 หรือพวกหนังอีพิกยุคสตูดิโอรุ่งเรืองหนังอาจประสบความสำเร็จก็ได้นะ แต่เอ๊ะ! นั่นมัน 50 กว่าปีแล้วนี่หว่า


รีวิว Samson

ทีนี้มากันที่ เทย์เลอร์ เจมส์ ผู้รับบทแซมซั่น จากที่หาผลงานที่ผ่านมาแล้วก็พบว่า เขาคือนักแสดงตัวประกอบอดทนอย่างแท้จริงเรียกได้ว่านับผลงานที่มีชื่อตัวละครของเขาได้น้อยมาก ซึ่งถ้าหากหนัง SAMSON ได้รับการตอบรับที่ดีอาจทำให้ เทย์เลอร์ เจมส์ ได้รับโอกาสดีๆได้แน่นอน แต่ขอโทษเถอะบทมนุษย์จอมพลังในปัจจุบันนี่แจ้งเกิดดาราได้น้อยมาก


วิจารณ์


เรื่องราวของ จอมพลังในคัมภีร์ไบเบิล ผู้ได้พรจากเทพให้มีพลังมหาศาล ที่ไม่ได้ปรากฎตัวในจอเงินเลยมาเป็นเวลานาน เท่าที่จำได้ผมไม่เคยเห็นหนัง Samson บนจนเงินเลยน่ะตั้งแต่เกิดมา จะได้ดูก็หนังเก่าๆยุค ก่อนผมเกิดน่ะครับ แต่หลังจากมี Hercules จอมพลังฝั่งตำนานกรีก ที่รับบทโดย The Rock ออกมา มันก็ให้คิดถึง Samson มาตะหงิดๆ เพราะหนังเก่าที่ผมเคยดู มี Samson กับ Hercules ถูกสร้างให้อยู่ในเรื่องเดียวกัน ( จำไม่ได้ละเรื่องอะไร ) แต่ ออกมามั่วๆหน่อย เรียกว่า เอา จอมพลัง จากตำนานกรีก มาผสมกับ จอมพลัง ในพระคัมภีร์ เหมือน การ์ตูน เซ้นต์เซย่า เอา ลูซิเฟอร์ จากไบเบิล มาเจอ กับ อาเธน่า เทพีกรีก ได้ประมาณนั้น


อึดมาก​ เก่งเกิน​ นี่คือ​ฮัคหรือ​คนเหนือมนุษย์​เหรอ​เนี่ย​ ซึ่งจุดนี้​เมื่อฮีโร่นั้น​เก่งเกิน​ก็ทำให้ตัวร้าย​นั้น​อ่อน​มากๆ​ สู้กัน​มันส์นะ​ เเต่​ตัวร้ายน่ารำคาญเเละไม่น่าจดจำ​เลย​ สิ่งที่ดีที่สุด​ของหนังเรื่องนี้​คือฉากเเอ็คชั่น​ ดราม่า​ เเละ​การถ่ายภาพที่มีวิวทิวทัศน์​ที่สวยงาม​ จุดที่เป็นปัญหาที่ใหญ่มากคือการหลุดตัวเองออกมาจากการเป็นหนังเเอ็คชั่นเเละหนังศาสนาจนทำให้ดูไปรู้สึกเเปลกๆในบางช่วง เเถมสิ่งที่เป็นจุดด้อย​อย่างเเรงเลยคือซีจีที่ลอยหนักมาก​ นักเเสดง​ที่เล่นได้​เเข็งไปบ้าง​ เเละ​บทที่เดาได้ง่าย​ รวมเเล้ว​อาจไม่ใช่หนังที่สมบู​รณ์เเบบ เเต่​ว่าเป็นหนังที่สามารถดูเอามันส์ได้​อยู่


สรุป


ขนาดบทเฮอร์คิวลิสยังไม่ทำให้ใครดังได้เลย แม้แต่มีเดอะร็อคเล่นหนังก็ยังแป๊กอ่ะ 555 เลยทำให้นี่อาจเป็นโอกาสได้รับบทนำครั้งสุดท้ายแล้วล่ะสำหรับบุรุษกล้ามใหญ่คนนี้ เพราะหนังแทบไม่ให้โอกาสเขาได้แสดงอย่างอื่นเลยนอกจากหน้าหื่นกับหน้าเหยเกตอนเบ่งพลัง ส่วนนักแสดงคนอื่นก็ยังถือว่าโนเนมมาก ที่สำคัญการได้เห็น บิลลี เซน ที่เคยรับบทเศรษฐีจาก Titanic (1997) มากลายเป็นคิงบวมเบียร์ก็ชวนให้อเนจอนาถใจหนักเข้าไปอีก

ดู 33 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

コメント


bottom of page