รีวิว Teenage Bounty Hunters - สาวซ่าล่าค่าหัว
สาวซ่าล่าค่าหัว ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องใหม่ของ Netflix เรื่องราวของสองแฝดสาววัยรุ่นวุ่นๆ ที่จับผลัดจับผลูมาเป็นนักล่าค่าหัว จนชีวิตเริ่มปั่นป่วนสุดอลเวงเพราะงานพาร์ทไทม์ลับๆ นี้ รีวิว Teenage Bounty Hunters
เรื่องย่อ
เรื่องราวชีวิตช่วงวัยรุ่นแตกเนื้อสาวเข้ากับการค้นพบตัวเองใหม่ๆ หลายสิ่งหลายอย่าง ไปพร้อมกับการผจญภัยมีชีวิตลับๆ ในโลกอีกแบบหนึ่งที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักกับการตามล่าพวกหนีประกันศาล ซึ่งมีอาชีพที่ว่านี้อยู่จริงในชื่อ เจ้าหน้าที่ติดตามการประกันตัว (Bail Recovery Agent) หรือนักล่าค่าหัว ซึ่งถูกต้องตามกฏหมายอเมริกา โดยค่าจ้างมาจากนายประกันที่จ่ายให้เมื่อมีคนหนีคดีไม่ไปขึ้นศาลหรืออยู่นอกเขตควบคุม ซึ่งนายประกันก็จะโดนศาลยึดทรัพย์ เพื่อไม่ให้สูญหลักทรัพย์นายจ้างจึงแบ่งเงินประกันตัวมาเป็นค่าจ้างตามล่าพวกนี้กลับมา โดยที่มีเอกสารจากทางราชการมอบให้นักล่าค่าหัวรับไปทำงานเพียงคนเดียว (หรือบริษัทเดียวกัน ทีมเดียวกัน) ป้องกันการแย่งค่าหัวกันเองของกลุ่มนักล่า นี่จึงเป็นอาชีพที่เสี่ยงชีวิตแบบถูกกฎหมาย และก็ไม่ต้องเป็นตำรวจ แต่ต้องสอบใบอนุญาตให้ผ่านเสียก่อนเท่านั้น
ยังคงมีซีรีส์ใหม่ๆ ออกมาให้เราได้ชมกันอย่างไม่ขาดสายสำหรับทาง Netflix และล่าสุดพวกเขาก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างซีรีส์เรื่องใหม่ออกมาแล้วในชื่อเรื่องว่า Teenage Bounty Hunters นั่นเอง โดย Teenage Bounty Hunters นั้นมันจะเล่าเรื่องราวของสองพี่น้อง Sterling และ Blair Wesly ที่จะต้องมาจับมือนักล่าค่าหัวจอมเก๋าอย่าง Bowser Jenkins ในการล่าฆ่าหัวเพื่อปราบปรามอาชญากรรมไปพร้อมๆ กับการเผชิญหน้ากับดราม่าชีวิตในโรงเรียน
โดยตัวซีรีส์นั้นจะได้ทาง Maddie Phillips, Anjelica Bette Fellini และ Kadeem Hardison มานำแสดง โดยจะได้ทาง Kathleen Jordan จาก Amarican Princess มาทำหน้าที่ในการสร้าง ทีมงานสร้างจากซีรีส์ Orange is the New Black มาช่วยเหลือในการอำนวยการสร้างอีกด้วย และตัวซีรีส์ก็เตรียมออกฉายให้เราได้ชมกันแล้วในวันที่ 14 สิงหาคมนี้
เนื้อเรื่อง
ซีรีส์ Netflix ที่จับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นแบบชัดเจนมาก ด้วยการเล่นเรื่องราวชีวิตช่วงวัยรุ่นแตกเนื้อสาวเข้ากับการค้นพบตัวเองใหม่ๆ หลายสิ่งหลายอย่าง ไปพร้อมกับการผจญภัยมีชีวิตลับๆ ในโลกอีกแบบหนึ่งที่ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักกับการตามล่าพวกหนีประกันศาล ซึ่งมีอาชีพที่ว่านี้อยู่จริงในชื่อ เจ้าหน้าที่ติดตามการประกันตัว (Bail Recovery Agent) หรือนักล่าค่าหัว ซึ่งถูกต้องตามกฏหมายอเมริกา
โดยค่าจ้างมาจากนายประกันที่จ่ายให้เมื่อมีคนหนีคดีไม่ไปขึ้นศาลหรืออยู่นอกเขตควบคุม
ซึ่งนายประกันก็จะโดนศาลยึดทรัพย์ เพื่อไม่ให้สูญหลักทรัพย์นายจ้างจึงแบ่งเงินประกันตัวมาเป็นค่าจ้างตามล่าพวกนี้กลับมา โดยที่มีเอกสารจากทางราชการมอบให้นักล่าค่าหัวรับไปทำงานเพียงคนเดียว (หรือบริษัทเดียวกัน ทีมเดียวกัน) ป้องกันการแย่งค่าหัวกันเองของกลุ่มนักล่า นี่จึงเป็นอาชีพที่เสี่ยงชีวิตแบบถูกกฎหมาย และก็ไม่ต้องเป็นตำรวจ แต่ต้องสอบใบอนุญาตให้ผ่านเสียก่อนเท่านั้น
ซึ่งการเอาโลกของนักล่าค่าหัวในปัจจุบันมาใช้ก็ถือว่าน่าสนใจมาก แม้ตอนแรกอาจจะงงๆ สักเล็กน้อยว่าอาชีพนี้มีจริงหรือไม่ แต่เรื่องจะนำเสนอระบบการดูหนังฟรีทำงานให้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่ามีขอบเขตแค่ไหน ยังไง อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ อย่างไม่มีการขอหมายศาลเข้าบุกบ้านใครได้แบบตำรวจ ไม่มีอำนาจเรียกใครสอบสวนหรือแม้แต่ไปซักไซร้โดยใช้ตำแหน่งนี้บังคับได้ การทำงานในอาชีพนี้ก็เลยต้องอาศัยทริกเล่ห์เหลี่ยมหลายอย่างเข้ามาช่วยให้เข้าถึงเป้าหมาย กึ่งๆ นักสืบ สายลับผสมกัน
ตัวเรื่องก็ได้หยิบจับเอาสองวัยรุ่นแฝดสาว “แบลร์ (คนพี่) กับสเตอร์ลิง (คนน้อง)” ที่บังเอิญขับรถชนผู้ร้ายหนีคดี ที่ถูกตามล่าโดย “บาวเซอร์” นักล่าค่าหัวผิวดำมือเก๋าของวงการ จนเป็นเหตุให้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนักล่าค่าหัวที่มาแย่งงาน ก่อนที่บาวเซอร์จะรับทั้งคู่มาเป็นทีมเดียวกันเหมือนครูสอนน้องใหม่เข้าวงการ และเป็นพนักงานบริษัทนี้ไปในตัว
การดำเนินเรื่องราว
ตัวเรื่องมีทั้งหมด 10 ตอน และก็แบ่งคดีเป็นตอนๆ โดยคดีที่พวกนี้ทำไม่ได้เป็นคดีอุกฉกรรจ์อะไรมาก (เข้าใจว่ามี แต่เรื่องใน SS1 ยังไปไม่ถึงจุดที่รับคดีพวกนั้นได้) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีเล็กๆ และก็มีความแปลกพิสดารอยู่ในแต่ละคดีพอสมควร อย่าง คดีสาวผิวสีหนีประกันตัวมาไล่ตัดหัวรูปปั้นนายพลในสงครามเหนือใต้ของอเมริกา หรือคดีนักต้มตุ๋นที่ปลอมแปลงตัวเองหนีคดีไปเรื่อยๆ
ซึ่งจุดนี้ทำให้เรื่องพอดูเป็นไปได้ว่า “บาวเซอร์” ที่เป็นนักล่าค่าหัวอายุ 50 กว่าปีต้องการเด็กสาวสองคนนี้มาช่วยงานที่บางทีเขาเองก็จนปัญหาหาทางเข้าถึงเป้าหมายเหมือนกัน ตัวเรื่องให้บาวเซอร์เปิดร้านไอสครีมบังหน้า แต่หลังร้านเป็นออฟฟิซทำงานร่วมกับสองสาวตัวเอกของเรื่อง และก็เดินเรื่องไปแบบที่ต่างคนต่างเรียนรู้ชีวิตของคนต่าง Gen ไปพร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าปวดหัวแน่นอนเมื่อสองสาวตัวเอกนี่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ตัวแฝดสาวในเรื่องเป็นแฝดคนละฝา (ไข่คนละใบ แต่ท้องเดียวกัน) แล้วก็มีนิสัยที่แตกต่างกันทุกอย่าง แบลร์เป็นสาวจอมดราม่ากับชีวิตทุกอย่าง สเตอร์ลิงเป็นสาวผมทองสุดป๊อบของโรงเรียน ชอบการเข้าสังคมได้รับการยอมรับจากคนในโรงเรียน แต่ทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดี แถมมีความสามารถพิเศษคุยสื่อสารกันได้โดยที่คนอื่นไม่ได้ยิน ซึ่งตอนแรกเรื่องจะไม่ได้อธิบายเลยว่าสิ่งนี่คืออะไร
เป็นฉากที่ทั้งคู่หันหน้ามาคุยกันแบบหลอนๆ เหมือนเมายาติดตลกนิดๆ ซึ่งตอนแรกอาจจะคิดว่าเรื่องต้องการนำเสนอภาพการเล่าเรื่องเฉพาะตัว แต่ตอนหลังจะมีบอกชัดแจ้งว่าเป็นความสามารถพิเศษของฝาแฝดที่เราคงเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ ว่าแฝดสื่อสารกันได้ และตัวเรื่องเอาจุดนี้แหละมาใช้ส่วนสำคัญของเรื่องไปจนถึงตอนจบของซีซั่นที่สำคัญมาก
ช่วงแรกเรื่องจะดูน่ารำคาญเอามากๆ หนังใหม่ชนโรงกับบทที่จงใจให้ตัวเอกแฝดสาวทั้งคู่เหมือนเด็กที่พึ่งแตกเนื้อสาว มีดราม่าไปกับทุกเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เต็มไปหมด อย่าง เรื่องพยายามหาแฟนป๊อบไว้ควงให้ได้ การมี SEX ครั้งแรกโดยขัดกับที่บ้านเคร่งศาสนา โรงเรียนก็เป็นโรงเรียนศาสนา ตัวเอกทั้งคู่ก็ช่างพูดไม่หยุดตลอดเวลา จนคนดูเองยังพาลปวดหัวแบบที่บาวเซอร์เองก็ปวดหัว เพราะต้องทนฟังเรื่องบ้าบอคอแตกเต็มไปหมดที่เรื่องยัดใส่เข้ามาตลอดเวลาที่ดำเนินไป
แต่เมื่อเรื่องเดินไปเกินครึ่งเรื่อง (หลังตอน 6 ไป) ดราม่าที่ปูมาน่ารำคาญก่อนหน้านี้จะเริ่มสมเหตุผลน่าติดตามขึ้นมาเลย เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นไปที่คิด และก็เริ่มจริงจังเรียนรู้กับชีวิต เรียนรู้กับความผิดพลาด ผิดหวังกับความรักที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น เรื่องพาให้ทั้งสองคนได้ค้นพบตัวตนจริงๆ นอกเหนือจากงานนักล่าค่าหัวที่ทั้งคู่ตั้งเป้าเอาจริงในเส้นทางนี้หลังรู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในสายงานนี้
ซึ่งดราม่าส่วนตัวของทั้งคู่ช่วงหลัง กลายเป็นจุดที่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตาม เมื่อมีการผูกปมให้ชีวิตทั้งสองด้านของทั้งคู่ต้องมาชนกันจนอลเวงทำให้ความรักของทั้งคู่พังพินาศไปหมด โดยเฉพาะความรักของสเตอร์ลิงที่ต้องบอกว่าน่าติดตามมากๆ ว่าเรื่องจะเดินไปอย่างไรในเมื่อความสัมพันธ์ของเธอไม่ธรรมดาแบบปกติกับเพศสภาพที่สวนทางกับความเชื่อทางศาสนาของครอบครัวคนรัก
ปมความลับของครอบครัวตัวเอก
นอกจากเส้นเรื่องดราม่าชีวิตส่วนตัวกับงานล่าค่าหัวแล้ว ในเรื่องยังมีปมความลับของครอบครัวนางเอกเติมเข้ามาอีก ซึ่งเรื่องก็เปิดให้เห็นจุดสังเกตุตั้งแต่จบตอนแรกแบบชัดเจนว่าครอบครัวนี้ไม่ธรรมดา และก็ค่อยๆ ใส่มาหลอกล่อให้ดูปะติดต่อไม่ถูกว่าจริงๆ แล้วความลับนี้คืออะไร ก่อนจะไปเฉลยเอาตอนจบ แล้วก็เล่นกับเรื่องฝาแฝดเพิ่มเติมขึ้นมาได้อีกอย่างน่าสนใจ แต่เรื่องก็ไม่ได้เคลียร์ปมจบหมด ต้องไปต่อซีซั่น 2 กันอีกที
ด้านนักแสดง
ตัวนักแสดงนำในเรื่อง สเตอร์ลิงคนน้องนี่น่ารักโดดเด่นมาก รวมถึงบทที่มีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง ทั้งเรื่องที่เป็นพวกเชื่อหลักคำสอนทางศาสนามากๆ แต่ก็มักหาข้ออ้างบิดความเชื่อนั้นให้ตัวเองได้ประโยชน์ แม้จะรู้สึกผิดลึกๆ แต่ก็ยังเชื่อว่าพระเจ้าเข้าใจ ซึ่งตัวเรื่องก็เดินโดยให้แบลร์เหมือนเป็นนางเอกจริงๆ มากกว่าพี่สาวด้วย ส่วนตัวพี่สาวแบลร์ด้วยรูปร่างหน้าตาที่แตกไปจากคนอื่นในครอบครัวมาก
ทำให้ดูขัดตาตั้งแต่เริ่มแรกยาวไปจนตอนหลังก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยดูแล้วเหมือนเป็นครอบครัวสายเลือดเดียวกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ติดใจตรงจุดนี้มากก็ไม่มีผลอะไรกับเรื่องครับ บทของเธอก็เต็มไปด้วยดราม่าประหลาดๆ อาจจะด้อยกว่าน้องสาวที่มีประเด็นน่าสนใจกว่าทั้งเรื่องความรักกับเพศสภาพ และความเชื่อทางศาสนา แต่แบลร์กลับไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเลย เป็นเรื่องงมงายแบบเห็นผี หรือพยายามรักษาสถานะกับแฟนผิวดำที่ทั้งรวยทั้งป๊อบให้ได้เท่านั้น
บาวเซอร์เองก็เป็นตัวละครหลักอีกคนที่สำคัญ บทของเขาจะออกแนวตาแก่ขี้เบื่อที่ไม่ค่อยทันกับวัยรุ่น Gen X สักเท่าไหร่ เรื่องนำเสนอชีวิตส่วนตัวเขาว่ามาเป็นนักล่าค่าหัวได้อย่างไร รวมถึงการเข้ามาของสองสาวที่ทำให้ชีวิตที่ดูเหมือนไม่มีอะไรดีของเขากลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ และก็เป็นคนช่วยผลักดันให้บาวเซอร์ได้กลับมาสานต่อความรักที่ค้างคาไว้ในอดีตอีกครั้ง ซึ่งก็จะมีเรื่องรักสามเส้ากับนายจ้างสาว ที่ต้องเจอกับคู่แข่งเป็นนักล่าค่าหัวตัวท็อปของวงการ ที่มีดีกว่าทุกทาง
โดยรวม
ซีรีส์วัยรุ่นเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ถือว่าทำได้ดีอะไรมากในภาพรวม แต่ตัวเรื่องก็มีอะไรลึกๆ หลายอย่างที่ทำออกมาได้ดีพอตัวเลย ถือว่าไม่เสียเวลาในการดู แต่ต้องทนช่วงเวิ่นเว้อครึ่งแรกของนางเอกทั้งสองคนไปให้ได้ก่อนเท่านั้น
สรุป
ซีรีส์ชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลผสมแนวแอ็กชั่นสืบสวนเบาๆ กับการติดตามล่าพวกหนีประกันศาลให้ได้มาซึ่งค่าหัวเงินรางวัล ช่วงครึ่งแรกเต็มไปด้วยดราม่าจิปาถะของสองนางเอกเยอะจนดูน่ารำคาญมาก แต่พอครึ่งหลังดราม่าที่ปูมาตอนต้นกลับขมวดได้จริงจังน่าติดตาม มีพัฒนาการทางความคิดของตัวละครที่ดี ไปพร้อมกับการค้นหาเป้าหมายของชีวิตแบบลองผิดลองถูกเพื่อเป็นบทเรียนชีวิต
แม้ภาพรวมของซีรีส์อาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ตัวเรื่องก็มีอะไรลึกๆ หลายอย่างที่ทำออกมาได้ดีพอตัวเลย ถือว่าไม่เสียเวลาในการดู แต่ต้องทนช่วงเวิ่นเว้อครึ่งแรกของนางเอกทั้งสองคนไปให้ได้ก่อนเท่านั้น
コメント