top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนattempt pai

Parasite


ดูหนัง HD

รีวิว Parasite - ชนชั้นปรสิต

Parasite ชนชั้นปรสิต หนังของผู้กำกับเกาหลียอดฝีมือ “บง จุนโฮ” ที่เคยทำหนังสัตว์ประหลาดเกาหลีอย่าง The Host หนังแอ็กชั่นโลกอนาคตล่มสลายเดินเรื่องที่แคบบนรถไฟอย่าง Snowpiercer หรือหนังแฟนตาซีดราม่าลง Netflix อย่าง Okja ถ้าใครเคยดูหนังเหล่านี้สักเรื่องจะทราบดีว่าผู้กำกับคนนี้ “มีของ” เขาเป็นผู้กำกับที่ทำหนังที่ดูเหมือนธรรมดา รีวิว Parasite


แต่ภายในไม่ธรรมดา สอดแทรกปรัชญา เสียดสีสังคม ชนชั้น ดราม่า ไว้ครบแทบทุกเรื่อง แถมสนุกทุกเรื่องซะด้วยสิ ไม่ว่าหน้าหนังจะเป็นยังไง แต่ลายเซ็นต์ของเขาชัดเจน ซึ่ง Parasite นี้ก็เช่นกัน ภายใต้ปกหน้าเรียบๆ แต่ภายในหนังเรื่องนี้ก็ยังมีการเดินเรื่องแบบสไตล์บง จุนโฮ ได้อย่างคงเส้นคงวา แถมคราวนี้ได้รางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาด้วย


เรื่องย่อ


ชีวิตเส็งเคร็งของคิมกีวู (ชเว วู-ชิก) เหมือนส้มหล่นเมื่อเขาได้เข้าไปสวมบทติวเตอร์ให้บ้านมหาเศรษฐีตระกูลปาร์คแทนเพื่อนที่ไปเรียนเมืองนอก ด้วยเห็นช่องทาง ‘เกาะหากิน’ เขาจึงเริ่มแผนการพาครอบครัวตัวเองเข้ามาอาศัยครอบครัวมีอันจะกินเป็นแหล่งทำเงินเพื่อหวังหลุดจากชีวิตอันแสนแร้นแค้น เริ่มจากให้ คิมคิ-จอง (พัคโซดัม) น้องสาวเข้ามาสวมบทครูศิลปะให้ลูกชายคนเล็ก ให้ คิมกีแท็ก (ซงคังโฮ) พ่อของเขามาเป็นโชเฟอร์ให้คุณผู้ชาย และคิมชุงซุค (จัง ฮเยจิน) คนแม่เข้ามาเป็นแม่บ้าน แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือความลับบางอย่างที่ มุนกวัง (อี จอง-อึน) แม่บ้านคนเก่าแอบซ่อนไว้ที่กลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่อาจพลิกชะตาครอบครัวกำมะลอไปตลอดกาล

 

เรียกได้ว่าแค่พะยี่ห้อหนังรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ก็ทำให้ Parasite กลายเป็นหนังที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงอยู่แล้ว แต่ในเหรียญอีกด้านของการสื่อสารไปยังกลุ่มคนดูวงกว้างเองตัวหนังก็เหมือนถูกสาปด้วยรางวัลเหมือนกัน เพราะจากภาพจำของคนดูบ้านๆร้านตลาดอาจตั้งกำแพงแล้วว่าหนังจะต้องดูยาก คิดเยอะ คิดหัวแทบแตก หรือจะสื่อสารกับกลุ่มคนดูซีรีส์เกาหลีเอง


นี่ก็ดันไม่ใช่หนังที่มีฉากหวานๆหรือคู่ชวนจิ้นเหมือนดั่งซีรีส์บันเทิงที่พวกเขาเสพอยู่ประจำเสียด้วย เอาล่ะ ท่ามกลางความไฮป์ที่เพจหนังหลายๆเพจพยายามกรอกหูเราว่าอย่าพลาด! อย่าพลาด! เราลองมาดูดีกว่าว่าถ้าคิดกำเงิน สองร้อยกว่าบาท ไปเสียตังค์ดูหนังเรื่องนี้เราจะได้อะไรบ้าง

บงจุนโฮ


หนังของ บงจุนโฮ ผู้กำกับที่ฉลาดเล่นกับแนวหนังที่สุดคนหนึ่งในเกาหลี มักเล่นกับความคาดหวังของผู้ชมต่อหนังประเภทต่างๆเสมอทั้งแนวสืบสวนอย่าง Memories of Murder(2003) และ Mother (2009) หรือหนังแฟนตาซีอย่าง The Host (2006) Snowpiercer (2014) หรือ Okja(2017)


โดยจุดร่วมที่แฟนหนังของเขาทราบดีคือกลวิธีเล่าเรื่องอันซับซ้อนเดาทางไม่ถูก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าหนังจะดูยาก ชวนปวดหัวนะครับ ตรงกันข้ามหนังของเขามักเล่าด้วยอารมณ์ขัน แต่สอดแทรกฉากสุดระทึกและที่สำคัญคือประเด็นความเหลื่อมล้ำในสังคมลงไปเสมอ


และกับ Parasite ที่ตั้งแต่ชื่อเรื่องยันภารกิจหลักของตัวละครในครอบครัวคิมคือการเข้าไปเป็น ปรสิต ในบ้านคนรวยก็เอื้อเหลือเกินให้หนังสามารถพูดเรื่องชนชั้นได้แบบตรงๆโต้งๆ แต่หาไม่ Parasite กลับเต็มไปด้วยการกำกับอารมณ์ จังหวะ ที่แม่นยำ


ตั้งแต่การเป็นหนังต้มตุ๋นโชว์เท่ในช่วงแรกก่อนจะขยับไปสู่ความเป็นทริลเลอร์ผสมสยองขวัญได้อย่างหน้าตาเฉย ดังนั้นคนดูจึงเหมือนถูกมัดติดกับเก้าอี้บนรถไฟเหาะที่เราทำได้เพียงแค่ติดตามชีวิตพลิกผันของตัวละครไปจนสุดราง และรับความสนุกปนหน้าชาจากหนังให้เต็มที่เท่านั้นเอง


การดำเนินเรื่อง


หนังเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวครอบครัวชนชั้นล่างของเกาหลี ซึ่งล่างขนาดที่ว่าบ้านอยู่ต่ำกว่าถนน ครอบครัวนี้มีกัน 4 คนพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว ซึ่งทั้ง 4 คนก็ทำมาหากินง่อกแง่กไปวันๆ ด้วยงานรับจ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่วันหนึ่งตัวลูกชายก็ได้บังเอิญรับหน้าที่เป็นครูสอนพิเศษในบ้านคนรวย


ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี จนคุณนายบ้านนั้นไว้ใจ เมื่อเห็นช่องทางเข้ามาทำงานในบ้านนี้ได้ ลูกชายตัวแสบจึงออกอุบายปลอมแปลงตัวตนให้ครอบครัวของเขาได้เข้ามาทำงานที่บ้านนี้ และนั่นเองเป็นจุดเริ่มเรื่องพิสดารพันลึกในบ้านหลังนี้ ที่มีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่เงียบๆ มานาน…


ด้านเนื่อหาของหนัง


หนังเล่นสนุกกับการเสียดสี 2 ชนชั้นตลอดเรื่อง แม้ว่าครอบครัวคนจนจะต้อยต่ำ แต่ก็ดูอบอุ่น มีความรัก ช่วยเหลือกันตลอดเวลา ต่างกับครอบครัวคนรวยที่ดูเผินๆ เหมือนจะรักกันดี แต่เนื้อแท้ก็เป็นครอบครัวที่ไม่ได้อบอุ่นเท่าใดนัก ต้องใช้เงินอุดเข้าไปทุกอย่างให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ แม้ว่าหนังจะเล่นประเด็นความแตกต่างชนชั้นเต็มๆ


แต่หนังก็ไม่ได้ทำให้ตัวละครทั้ง 2 ฝั่งดูแบ่งเป็นฝ่ายดีฝ่ายร้ายแต่อย่างใด แม้ว่าบทจะวางคาแรคเตอร์ไว้แบบย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่ควรจะเป็น อย่างเรามักจะติดตาว่าคนจนในแบบตัวร้าย ต้องดูมีความโลภ เห็นแก่ตัว แต่ในหนังเรากลับได้พบครอบครัวคนจนนักต้มตุ๋น ที่ต้องการแค่เข้าไปเกาะคนรวย เหมือนกาฝากหรือปรสิตเพื่อยกระดับชีวิตพวกเขาเท่านั้น


แถมยังเอาใจช่วยภารกิจปลอมตัวเข้ามาทำงานของเหล่าคนจนอีกด้วย ในส่วนคนรวยที่ปกติจะดูร้ายกาจเอาแต่ใจ แต่กลับกลายเป็นฝ่ายที่ดูซื่อๆ นิสัยดี เพราะชีวิตมัวแต่หาเงินจนไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น แถมขำๆ กับการกระทำของคนรวยที่ใช้เงินทุ่มแก้ปัญหาทุกอย่างในบ้าน ซึ่งนั่นทำให้หนังเสียดสีชนชั้นเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ใครดูแล้วอึดอัด


เพราะหนังก็ไม่ได้ปักธงว่าใครดีกว่าใคร แต่ก็ยังมีจุดที่เล่นแรงพอตัว ด้วยสอดแทรกการเหยียดคนจนด้วยกลิ่น หนังแทรกประเด็นนี้ตลอดเรื่องเป็นระยะๆ เหมือนขำๆ ก่อนจะพาเราไปพบกับจุดไคลแม็กซ์ของ “กลิ่นสาบคนจน” ได้อย่างสุดยอด


ด้านตัวละคร


ก่อนเราจะพูดถึงรุ่นใหญ่อย่าง ซงคังโฮ เชื่อว่าคนดูทั่วไปหากได้ดูตัวอย่างน่าจะสะดุดตากับเหล่านักแสดงหน้าตาดีกันบ้าง เริ่มจาก ชเว วู-ชิก อดีตนักแสดงสังกัดเจวายพี (JYP Entertainment)ที่เคยผ่านตาเราทั้งบทแฟนหนุ่มของสาวโซฮีวง Wonder Girls ใน Train to Busan ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง อันโด่งดังรวมถึงเคยร่วมงานกับ บงจุนโฮ ใน Okja มาก่อนหน้านี้


ซึ่งหนุ่ม วู-ชิก ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นอกจากจะโชว์เสน่ห์ด้วยหน้าหล่อๆแบบโอปป้าแล้ว ฝีมือการแสดงในหนังยังเรียกร้องเขามากกว่าแค่ความหล่อ เพราะต้องแบกทั้งภาระในการพาครอบครัวมาสู่สิ่งที่ดีกว่าไปจนถึงดูหนัง HDความผิดบาปที่ค่อยๆทวีขึ้นเรื่อยๆจนเราอดเอาใจช่วยและสะเทือนใจกับชะตากรรมของ คิมกีวู ที่เขาแสดงไม่ได้


และสำหรับหนุ่มๆคงไม่อาจละสายตาจากสองสาวสวยน่ารักได้แน่ๆ ทั้ง พัคโซดัม และ ฮยอนซึงมิน โดยเริ่มที่ พัคโซดัม ในบทคิมคีจอง น้องสาวตัวแสบของกีวูที่ใช้เล่ห์กลและความมั่นใจค่อยๆหลอกเกาะกินครอบครัวปาร์คได้อย่างชาญฉลาด  ซึ่ง พัคโซดัม ที่โด่งดังจากซีรีส์ Cinderella with four knights หรือ ปิ๊งรักยัยซินเดอเรลล่า ก็ใช้ความเก๋ของหน้าตาและบุคลิกเท่ๆมาทำให้หนุ่มๆ (และอาจจะสาวๆด้วย) ละลายได้ไม่ยากเลย


ส่วน ฮยอนซึงมิน ในบท ปาร์ค ดา-ฮเย ลูกสาวคนโตของบ้านปาร์คที่ชอบอ่อยเบอร์แรงแถมยังขยันหยอดจนติวเตอร์หนุ่มอย่าง วู-ชิก เคลิ้มอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งฮยอนซึงมิน อดีตนักสเก็ตน้ำแข็งที่มาโด่งดังกับซีรีส์ W ก็ขยันทำหน้าออดอ้อนจนเราเข้าใจเลยว่า ทำไมไอ้หนุ่ม คิมวู-ชิก มันถึงเก็บไปวาดวิมานกลางอากาศได้เบอร์นั้น 555


ขยับไปที่รุ่นกลางอย่าง อีซอนกยุน ในบทคุณปาร์ค ก็พาหน้าหล่อๆมาดเท่ๆสไตล์ CEO บริษัทแก็ตเจ็ตไฮเทค มาวางท่านายใหญ่เจ้าชีวิตได้อย่างน่าเกรงขาม และอดีตพระรองของ รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ หรือ Coffee Prince ซีรีส์สุดฮิตที่เคยขโมยหัวใจสาวๆมาแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแถมตัวละครของเขายังเล่นบทบาทสำคัญในตอนท้ายแบบช็อกซีนีม่าเลยทีเดียว


และขอปิดท้ายที่ โจยอจอง ในบท ปาร์คยอนคโย ภรรยาสาวสวยสติแตกที่ดันเชื่อคนง่ายเหลือเกิน ซึ่งการได้ โจยอจอง เซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ของเกาหลีมารับบทนี้ยิ่งทำให้ภาพตัวละครเมียคนรวยที่ดูดีแต่ไม่ปกติดูเสน่ห์ชวนหลงใหลเอามากๆ ที่สำคัญฉากแฟนเซอร์วิสเรื่องนี้รับรองหนุ่มๆจ้องกันตาเป็นมันแน่ๆ 555


รีวิว Parasite

แล้วก้มาถึงรุ่นใหญ่อย่างซงคังโฮ


สำหรับนักแสดงฉายา Awards Prince อย่างซงคังโฮ ดาราคู่บุญผู้กำกับ บงจุนโฮ ที่อาจไม่ได้มีหน้าตาหล่อเหลาแบบโอปป้า แต่เชื่อเลยว่าคุณจะห้ามใจไม่ให้หลงรักเขาได้ยากเหลือเกิน ซงคังโฮ ได้ทำให้บท คิมกีแท็ก กลายเป็นคุณพ่อ 18 มงกุฏที่ดูอบอุ่น จริงใจ และเราเชื่อได้เลยว่าคนอย่างเขาจะปกป้องครอบครัวเสมอ


และมีหลายฉากหลายตอนเหลือเกินที่หนังออนไลน์เขาทำเราจุกอก ตั้งแต่ฉากพับกล่องพิซซ่าท่ามกลางควันไล่แมลง ฉากทานข้าวครอบครัวที่เขาเรียกสมาชิกให้ชนแก้วเพื่อขอบคุณเรื่องดีๆในชีวิตแม้กับข้าวจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม ไปจนถึงฉาก “เจ้านายเหม็นกลิ่นคนจน” ที่เชื่อได้เลยว่ายากมากที่เราจะไม่รู้สึกตามทั้งสายตาและร่างกายที่สื่อสารแบบไร้คำพูดแต่กลับส่งผลกระทบต่อคนดูแบบมหาศาลคือเครื่องการันตีเลยว่าทำไมเสียงชื่นชมส่วนใหญ่ถึงเทให้ ซงคังโฮ อย่างไร้ข้อกังขา


โดยรวม


นี่เป็นหนังทริลเลอร์ที่ซ่อนเรื่องราวหลายอย่างไว้ได้อย่างร้ายกาจ หนังอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือในแบ็คกราวด์บางอย่าง เช่น ตัวละครฝั่งคนจนที่ดูมีความสามารถเฉพาะตัวสูง จนแอบคิดว่าถ้ามีสกิลทำได้ขนาดนี้ก็ไม่น่าจะตกงานทั้งบ้าน แต่ด้วยความที่หนังวางตัวเองว่าเป็นหนังตลกร้ายเสียดสีสังคม แถมด้วยการซ่อนพล็อตทริลเลอร์ลึกลับไว้ในเรื่องแบบแอบโอเว่อร์นิดๆ ถ้ามัวแต่จะจับผิดก็คงดูไม่สนุก


ถึงหนังจะไม่หวือหวา เดินเรื่องเรียบๆ เรื่อยๆ แต่ก็แฝงด้วยความสนุกเป็นระยะ จากรื่องราวที่คาดไม่ถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่หนังสายรางวัลที่ไม่ได้ดูยาก แถมเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่กลับซ่อนกล จบได้แบบกึ่งจริงจริงฝัน เข้ากับประเด็นชนชั้นของเรื่องได้เป็นอย่างดี


สรุป


เป็นหนังสายรางวัลที่ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องตีลังกาดู หนังไม่ได้ดูยาก แถมเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่กลับซ่อนกล พล็อตแปลกใหม่ ควรค่าแค่การดู

ดู 12 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page