Narcos Mexico
รีวิว Narcos Mexico - นาร์โคส เม็กซิโก
จุดเริ่มต้นใหม่ของซีรีส์ที่ย้ายจากโคลอมเบียมายังเม็กซิโกที่มีปัญหายาเสพติดหนักหน่วงเหมือนกัน เรื่องราวเริ่มต้นจากเจ้าพ่อค้ายาชื่อดังสุด “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” รุ่นก่อนหน้า เอล ชาโป โดยยังมีความเกี่ยวพันถึงแก๊งกาลีในโคลอมเบียรวมอยู่ด้วย รีวิว Narcos Mexico
เรื่องย่อ
เล่าถึงตำรวจที่ตามสืบคดียาเสพย์ติดโคเคน และเรียกได้ว่าผู้ร้ายรายนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาคือ พาโบล เอสโคบาร์ พ่อค้าโคเคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโคลัมเบียและของโลกเลยก็ว่าได้ แถมพาโบลนี้ยังรวยเป็นอันดับ 7 ของโลกในสมัยนั้นอีกต่างหาก หากคุณอยากรู้ว่าตำรวจจะจับเขาได้อย่างไรต้องติดตามซีรีส์เรื่องนี้
หลังสร้างกระแสจากป้ายเซ็นเซอร์โมเสกจนเป็นทีีฮือฮาในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ก็ได้เวลาที่เราจะมาพิสูจน์กันกับซีรีส์ Narcos Mexico ซีรีส์ที่ต่อยอดมาจาก Narcos ซีรีส์อาชญากรรมอิงประวัติศาสตร์การปราบปรามยาเสพย์ติดข้ามชาติที่สร้างติดต่อกันถึง 3 ซีซันและแน่นอนหลังจากปิดบัญชีแก๊งกาลีในซีซัน 3 ผู้สร้างก็ขอหาเรื่องราวใหม่แต่เป็นยุคสมัยที่มีความซ้อนทับกันคือการขนส่งกัญชาข้ามชายแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐในสมัยรัฐบาล โรนัลด์ เรแกน อันมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองที่มาเกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ
Narcos Mexico คือ ซีรีย์ที่พูดถึงจุดเริ่มต้นของพ่อค้ายาชื่อดังอย่าง “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” หรือที่ในเรื่องเรียกกันสั้นๆว่า “เฟลิกซ์” ย้อนไปในช่วยเริ่มแรกเดียวกับแก๊งกาลีในโคลัมเบีย แต่เป็นธุรกิจยาเสพติดอย่างกัญชา ที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากอยู่ในแม๊กซิโกหรือชายแดนอเมริกา แต่ด้วยในตอนนั้นกฎหมายกัญชาไม่ได้ร้ายแรงเท่าไรนัก ทำให้พ่อค้ากัญชาเกิดใหม่ขึ้นมากมาย
แต่ เฟลิกซ์ เป็นพ่อค้าที่นำเอากัญชาสายพันธุ์ใหม่จนทำให้มียอดขายสูงจนไม่เคยมีมาก่อน ในระหว่างทางต้องมีการจ่ายค่าสินบน ทำธุรกิจสายเทาใต้ดิน และสร้างแก๊งให้มีความเข้มแข็ง จนกลายเป็นพ่อค้ายาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเม็กซิโก และเข้าไปเกี่ยวพันกับโคเคนจนนำไปสู่ความสัมพันธ์กับ พาโบล เอสโคบาร์ ในภาคเก่านั่นเอง
ใน Narcos Mexico อาจจะไม่ได้มีความโหด ดิบ หรือแอคชั่นเทียบเท่ากับภาคก่อนมากนัก แต่สิ่งที่ซีรีย์ต้องการนำเสนอเรื่องของ กัญชา เป็นหลัก เรียกได้ว่าเข้ามาดูเรื่องนี้ได้ความรู้เพียบแน่นอน หรือขั้นตอนเก็บเกี่ยวจนมาบรรจุขาย เห็นถึงการปกครองของแก๊งต่าง ๆ ในแม็กซิโก
ซึ่งแตกต่างกับแก๊งในโคลัมเบียอย่างมาก มีการกระจายกลุ่มกับดูแลโดยไม่มีการกินเส้นกัน แต่ตัวพระเอกมีความต้องการอย่างรวมเอากลุ่มนี้มาอยู่ในการปกครองของเขาให้ได้ ตัวละครไม่ได้มีจำนวนมากแต่คุณจะสนกไปกับการดำเนินเรื่องของตัวละครหลัก ทำให้คุณเข้าใจและรู้สึกอินได้มากยิงขึ้น
เนื้อเรื่อง
โดยคราวนี้เราจะได้ติดตาม กิกิ กามาเรนา (ไมเคิล เพนยา) เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพย์ติดชั้นผู้น้อยชาวฮิสแปนิกที่ย้ายมาประจำเม็กซิโก กับภารกิจโค่น ฟีลิกซ์ กัลลาร์โด (ดิเอโก ลูนา) ตำรวจกังฉินที่ร่วมมือกับ ราฟาเอล (เตโนช ฮูเออร์ต้า) ชาวไร่สายเขียวพัฒนากัญชาเกรดใหม่และวางแผนสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งออกกัญชาไปยังสหรัฐอเมริกาโดยอาศัยช่องทางการคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ งานนี้ กิกิ จะขวางทาง ฟีลิกซ์สำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม
‘กิกิ กามาเรนา’ คือตัวเอกฝั่ง DEA ที่ประจำเม็กซิโกในภาคนี้ที่แยกขาดออกมาจากซีซั่น 1-3 ในโคลอมเบีย แล้วก็เริ่มด้วยกัญชาไม่ใช่โคเคนอย่างในโคลอมเบีย ซีรีส์เริ่มเปิดเรื่องก็คือเหตุการณ์ตอนเกือบจบของซีซั่นเม็กซิโก เป็นเหตุการณ์ที่กิกิถูกลักพาตัวไปทรมานโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมใหม่ในเม็กซิโกซิตี้ ที่ขึ้นไต่เต้าขึ้นมาจากระดับล่างในเวลาไม่นานด้วยมันสมองอัจฉริยะ และสามารถรวบรวมแก๊งอาชญากรรมในเม็กซิโกหลายๆ เขตให้มาขึ้นรวมกันเป็นองกรค์ค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ระดับครองประเทศได้สำเร็จ
ในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นจุดเริ่มของการขายกัญชาระดับโลกที่มาก่อนโคเคน ผ่านไร่กัญชาใหญ่ที่สุดในโลกของ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” (เรียกสั้นๆ ว่า เฟลิกซ์) ซึ่งเป็นการเปิดฉากใหม่ แต่ย้อนอดีตไปไกลในยุคสมัยเดียวกับโคเคนพึ่งเริ่มมา โดยเป็นธุรกิจยาเสพติดอีกแบบที่มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างกัน
แต่ความน่ากลัวของกัญชาน้อยกว่าโคเคนมากหลายเท่า ทำให้ไม่ถูกทางอเมริกาหรือทางการเม็กซิโกจับตามาก ซึ่งผู้ค้ากัญชามีเกลื่อนตลาด แต่การมาของกัญชาเฟลิกซ์เป็นพันธ์พิเศษให้ผลผลิตดีกว่าทุกชนิดที่ขายกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฟลิกซ์เติบโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการติดสินบนและทำธุรกิจใต้ดินคู่ไปกับคนในรัฐบาลเม็กซิโก
โดยมีหน่วยตำรวจลับ DFS ของรัฐบาลคุ้มครองอีกที แล้วดูหนังออนไลน์ก็มีแผนการใหญ่ทำเครือข่ายแก๊งต่างๆ ในเม็กซิโกให้กลายมาเป็นพันธมิตรกัญชากับเขา จนในที่สุดก็กลายเป็นพ่อค้ายาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเม็กซิโก แล้วก็เริ่มขยายธุรกิจมายังโคเคน ทำให้นาโคสเม็กซิโกเป็นจุดเริ่มของการดึงตัวละครเก่ากลับมาใหม่ครั้งแรก และกลายเป็นเรื่องเดียวกันกับซีซั่น 1-3 เพียงแต่แยกชื่อภาคออกมาเป็นประเทศเม็กซิโกเท่านั้น
การดำเนินเรื่อง
ว่ากันตามตรงเลยคงต้องบอกว่า Narcos Mexico ยึดการดำเนินเรื่องแบบเดียว Narcos 3 ซีซันแบบเป๊ะๆ ทั้งการให้ข้อมูลเชิงสารคดีที่น่าสนใจโดยปนความคิดเห็นของคนเขียนบทเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวที่เป็นเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์การเมืองที่สหรัฐอเมริกาเคยมีเอี่ยวกับการแทรกแซงกิจการภายในประเทศแถบอเมริกาใต้ได้อย่างแนบเนียน
แต่ในทางกลับกันใครที่อยากหาความบันเทิงจากซีรีส์โดยหวังว่ามันจะแอ็คชั่นระเบิดระเบ้อก็อาจผิดหวังได้ เพราะซีรีส์แต่ละตอนเลือกบอกเล่าเรื่องราวแบบละเอียดปูหมดกระทั่งว่า ฟีลิกซ์ ต้องติดต่อใครบ้างกว่าจะได้เส้นสายในการขนส่งกัญชาจนบางทีหากร่างกายไม่พร้อมนี่มีหลับคาจอได้เลย
แต่สิ่งที่ผิดแผกออกไปและดูเหมือนว่ามีผลต่อการชมไม่น้อย นั่นคือการสร้างตัวละครที่ดูขาวจัดอย่าง กิกิ ที่หนังทั้งปูเรื่องครอบครัวและเพิ่มคะแนนสงสารด้วยฉากโดนตำรวจดูถูกในตอนเปิดเรื่อง ส่วนผู้ร้ายอย่าง ฟีลิกซ์ ก็มุ่งแต่จะค้ายาโดยไม่สนเครื่องแบบและหน้าที่ตำรวจแม้แต่น้อย
ซึ่งทำให้เสน่ห์แบบ Narcos ที่ตัวละครทั้ง 2 ฝ่ายมีความเป็นสีเทาไม่มีใครดีหรือชั่วแบบสุดขั้วเลยถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย โดยยังคงไว้ซึ่งฉากแอ็คชั่นที่มีความโหดแต่เพิ่มระดับความวินาศสันตะโรมากขึ้นและแถมสาวๆสวยๆที่พร้อมโชว์เรือนร่างเป็นอาหารตาหนุ่มๆเหมือนเดิม
ในส่วนของซีซั่นนี้ DEA ยังเป็นแค่หน่วยงานใหม่ที่ไม่ได้มีตัวช่วยพิเศษมากแบบในซีซั่น 1-3 ที่มีพร้อมทั้งอุปกรณ์และกำลังคน จึงทำให้ภาคนี้การทำงานดูเรียบๆ ไม่ได้ดุดันหวือหวามีอำนาจสู้กันแบบในซีซั่นก่อนๆ แล้วก็โฟกัสไปที่เรื่องของ ‘กิกิ” กามาเรนา’ เป็นหลักเท่านั้น โดยเปิดเรื่องมาก็เห็นเลยว่าโดนลักพาตัวไปแล้ว
ซึ่งหนังแฟลชแบ็คเล่าเรื่องราวเขาย้อนกลับมาตั้งแต่แรกคู่กับเฟลิกซ์ที่พึ่งเริ่มไต่เต้าจากระดับขึ้นมาเช่นกัน ซีซั่นนี้จึงไม่ได้มีแอ็กชั่นดุเดือดอะไรนักเพราะพึ่งเป็นจุดเริ่มของทั้ง DEA กับเจ้าพ่อยาเสพติดคนใหม่ ยังไม่ถึงขนาดเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นแบบในซีซั่น 1-3 แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประวัติศาสตร์วงการค้ายาเสพติดในเม็กซิโกเปลี่ยนไปกลายเป็นปัญหาระดับชาติจนถึงปัจจุบัน
แม้เรื่องราวจะไม่ดิบเถื่อนมาก แต่ก็สิ่งที่โดดเด่นกว่าซีซั่นก่อน คือการนำเสนอโลกของกัญชาตั้งแต่เริ่มปลูกและผสมพันธ์ละเอียดยิบในแบบที่โคเคนไม่มี รวมถึงการปกครองของเฟลิกซ์ที่ไม่เหมือนทั้งปาโบล เอสโคบาร์กับแก๊งกาลีเลยแม้แต่น้อย แม้จะไม่หวือหวาเร้าใจเท่า
แต่ก็เป็นแนวทางจากเรื่องจริงของเม็กซิโกที่แก๊งต่างๆ กระจายเขตคุมไม่ล้ำเส้นกัน แล้วเฟลิกซ์ต้องคิดหาทางทำให้พวกนี้มาอยู่ใต้องค์กรในความปกครองของเขาให้ได้ ซึ่งภาคเม็กซิโกนี้มีตัวละครหลักวางไว้เยอะกว่าภาคก่อนๆ มาก และมีความสำคัญกับเรื่องหลักทุกตัวละคร ยาวไปจนจบซีซั่นสองก็ยังเคลียร์เรื่องราวไม่หมด
ด้านนักแสดง
ว่ากันถึงนักแสดงที่คราวนี้หนังใช้ดาราเชื้อสายอเมริกาใต้คนดังทั้ง ไมเคิล เพนยา จาก Antman และ ดิเอโก ลูนา จาก Rouge One A Star Wars Story ซึ่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีประมาณหนึ่งเพียงแต่สถานะดาราของพวกเขา หลายครั้งก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังดูเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องราวเชิงสารคดีโปรแกรมหนังหรือ Docudrama แบบ Narcos ทั้ง 3 ซีซันไปอย่างน่าเสียดาย
โดยรวม
โดยรวมซีซั่นนี้ลดดรีความโหดดิบเถื่อนลงไปเยอะ แต่เข้าใจว่าเป็นการปูเริ่มเรื่องใหม่ก็ต้องใช้เวลาในการปูเรื่องพอสมควร และด้วยบุคลิกของเฟลิกซ์เองก็เป็นแนวเก็บตัวเงียบๆ เน้นติดสินบนกับฝ่ายการเมืองเม็กซิโก หลีกเลี่ยงไม่อยากมีปัญหากับ DEA โดยตรง ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่ค่อยมีการปะทะหรือฉากแอ็กชั่นอะไรนัก แต่จะค่อยๆ ไต่ระดับไปจนถึงจุดหักเหของเรื่องที่ทำให้กิกิเจ้าหน้าที่ DEA ถูกลักพาตัว จนทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตตามมา และตอนจบของซีซั่นนี้คือจุดเริ่มของเรื่องจริงในชื่อ ‘ปฏิบัติการเลเยนดา’ ซึ่งเป็นการเล่นนอกกติกาครั้งใหญ่ของ DEA ในยุคแรกของการปราบยาเสพติดข้ามชาติใหญ่โตแบบนี้
สรุป
ซีซั่นแรกของภาคเม็กซิโกเปิดเรื่องใหม่และไต่ระดับความน่าสนใจทำได้ดี แต่ความดุเดือดรุนแรงเบาลงไปมากเมื่อเทียบกับภาคโคลอมเบีย โดยทิ้งท้ายไว้ว่าซีซั่น 2 จะดุเดือดแน่ๆ แต่ซีซั่น 2 เรื่องราวกลับลดระดับความน่าสนใจลงไป รวมถึงแอ็กชั่นและความโหดดุเดือดก็น้อยกว่าซีซั่นแรกซะอีก แถมช่วงท้ายสุดก็ยังไปไม่ถึงเรื่องราวหลักของ ‘เอล ชาโป’ จนดูแล้วน่าจะยืดเยื้อยาวกว่าภาคโคลอมเบียที่ทำได้กระชับและจบลงตัวได้ดีกว่ามาก
Comments