รีวิว I Still See You - วิญญาณเห็นตาย
สัปดาห์แรกของต้นปี ที่ไม่ค่อยจะมีหนังเข้าสักเท่าไหร่ นอกจาก Family Instant และ Green Book ที่ดูไปแล้วและไม่ผิดหวังเลย แถมยังชอบอีกต่างหาก โดยส่วนตัวจึงคิดว่าในหนึ่งสัปดาห์มันต้องมีหนังที่ค่อนข้างแย่อยู่สักเรื่องละน่า และนั่น… Jackpot ก็คือเรื่องนี้นี่แหละ รีวิว I Still See You
หนังไซไฟระทึกขวัญบอกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตไม่ไกลจากเวลาปัจจุบัน เมื่อมนุษย์ได้รับผลกระทบจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ผิดพลาด ส่งผลให้ผู้คนกว่าครึ่งค่อนโลกเสียชีวิต เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ภาพวิญญาณของเหยื่อที่ปรากฏในสภาพความทรงจำสุดท้ายก่อนตาย กระทั่งวันหนึ่ง รอนนี่ คาลเดอร์ (เบลล่า ธอร์น) สาววัยรุ่นที่ถูกคุกคามจากวิญญาณลึกลับตนหนึ่ง ทำให้เธอต้องร่วมมือกับเคิร์ก (ริชาร์ด ฮาร์มอน) ในการตามหาความจริงว่าปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าว ทำไมถึงเกิดขึ้นกับเธอ
เรื่องย่อ
หลังเกิดอุบัติเหตุห้องแล็บรัฐบาลระเบิดจนคร่าชีวิตผู้คนในเมืองมากมาย แถมคนตายยังปรากฎเป็น “เศษเสี้ยว” หรือวิญญาณที่ฉายภาพเดิมซ้ำๆปะปนในโลกคนเป็น สำหรับ เวโรนิกา (เบลลา ธอร์น) การได้เห็นเศษเสี้ยวของพ่อที่ปรากฎบนโต๊ะอาหารยามเช้า รวมถึงเหล่าวิญญาณตามท้องถนนคือสิ่งที่เธอชินตามานาน จนการปรากฎกายของ วิญญาณลึกลับได้กลายเป็นลางบอกเหตุร้ายที่อาจคร่าชีวิตเธอ หากยังไม่ได้คำตอบว่าวิญญาณนั้นเป็นใครและเกี่ยวพันกับเหตุระเบิดอย่างไร
I still see you สร้างจากนิยายเรื่อง Break my heart one thousand times ของ แดเนียล วอเตอร์ส ที่มุ่งสำรวจโลกคนตายผ่านสายตาแบบวิทยาศาสตร์สุดๆ ด้วยคุณงามความดีของนิยาย ตัวหนังเลยเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์เพียบทั้งการนำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของโลกตะวันตกมาผูกโยงความเชื่อเรื่องวิญญาณแบบตะวันออก รวมถึงการพูดถึงความตายในเชิงโรแมนติกและการหักมุมในแบบหนังระทึกขวัญ แต่น่าเสียดายที่หนังเต็มไปด้วยช่องโหว่มหาศาล การนำเสนอของหนังเลยกระท่อนกระแท่นไม่สมูธเท่าใดนัก
ความผิดพลาดประการแรกคือการที่หนังไม่พาเราไปสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างเวโรนิกากับพ่อให้ลึกซึ้งกว่าแค่ฉากสอนเล่นสเก็ตน้ำแข็งตอนดึก ซึ่งความสัมพันธ์พ่อลูกนี้ถือเป็นหัวใจของเรื่องจริงๆ เพราะมันส่งผลต่อปมดราม่าทั้งหลาย ทั้งประเด็นที่ เคิร์ก (ริชาร์ด ฮาร์มอน จากซีรีส์ 100) ไม่ได้เห็นวิญญาณของพ่อที่จากไป รวมถึงจุดหักมุมที่สัมผัสใจนักอ่านมาแล้ว แต่ สก็อต สเปียร์ กลับไปเล่นเรื่องสเปเชียล เอฟเฟกต์ นครผีเดินมากเกินไปจนลืมปมดราม่าสำคัญนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
ประการต่อมาคือการให้ความสำคัญกับ ตัวละครแวดล้อมเวโรนิกา ที่เรารู้ข้อมูลน้อยมากทั้ง เคิร์ก ที่ถูกเมาธ์ว่า เป็นหนุ่มบ้าเรื่องผี หรือ บิตเนอร์ (เดอร์มอต มัลโรนี)ครูวิชาวิญญาณศึกษาที่ย้ำกฎเรื่องวิญญาณในห้องเรียนเหลือเกิน ก็ไม่ได้ถูกปูพื้นที่มาที่ไป หรือให้เราเข้าใจตัวละครมากพอจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเลือกปฏิบัติมากพอ เลยทำให้การตัดสินใจของ เวโรนิกา ไม่สมเหตุสมผลไปโดยปริยาย
และสำหรับ เบลลา ธอร์น ที่ถือเป็นนักแสดง นักร้อง ที่มีชื่อเสียงแต่ผลงานไม่โดดเด่นนักก็ไม่สามารถทำให้เราเอาใจช่วยตัวละคร เวโรนิกา ของเธอได้สักเท่าไหร่ จะมีขโมยซีนก็ชุดเสื้อกล้ามขาวกางเกงขาสั้นที่ดันทำหนุ่มๆตาลุกจนลืมกลัวผีไปทั้งโรงเนี่ยแหละที่ช่วยปลุกคนดูจากภวังค์ได้หน่อย
ด้วยความที่ I still see you กะกินรวบสายดราม่า โรแมนติก และคอหนังผีระทึกขวัญ แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่แข็งแรงก็ทำให้มันไปไม่ถึงฝั่งสักทาง จะกลัวผี ผีก็ดันหน้าหล่อแถมใส่บ็อกเซอร์โชว์บั้นท้ายจนสาวๆอยากโดนหลอกอีก จะโรแมนติกมันก็โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอยู่ดีๆก็รักกันขึ้นมา ยิ่งปมดราม่านี่หนังก็พลาดตั้งแต่เรื่องการปูพื้นความสัมพันธ์พ่อลูกให้ตัวละครแล้วล่ะครับ
วิจาร์ณ
ตัวหนังเปิดเรื่องราวให้เราได้เห็นปรากฏการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ก่อนจะตัดสลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบัน 10 ปีให้หลัง ซึ่งฉากเปิดเรื่องไม่ได้เป็นฉากขายเทคนิคพิเศษที่ยิ่งใหญ่ตระการตาตามประสาหนังโลกแตก เพียงแต่บอกเล่าเหตุการณ์พอสังเขปให้ผู้ชมได้เห็นว่าปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง เราจะได้เห็นการปรากฏตัวของวิญญาณจากในหลายยุคสมัยในสภาพความทรงจำอันพร่าเลือน โดยวิญญาณเหล่านี้จะปรากฏตัวสั้นๆเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของพวกเขาก่อนเสียชีวิต ไม่ได้มีภัยคุกคามอะไรแก่มนุษย์ที่ยังมีลมหายใจอยู่ เพื่อที่เราจะได้ทำความเข้าใจกับสภาพโลกอนาคตในหนังนั่นเอง
I Still See You เป็นหนังที่สร้างมาจากนิยายชื่อ Break My Heart 1,000 Times เป็นหนังพล็อตแปลก สร้างสรรค์ ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างที่คร่าชีวิตคนไปมากมาย จนทำให้เหลือแต่เศษเสี้ยวของวิญญาณที่ปรากฏให้คนเห็นอยู่เป็นประจำ แต่หนัง HDแล้วนางเอกของเรื่องก็โดนวิญญาณตนหนึ่งคุกคาม เธอและเพื่อนของเธอจึงต้องสืบหาสาเหตุว่าทำไม แต่ยิ่งทำแบบนั้น เธอยิ่งล่วงรู้ความลับบางอย่างที่อันตรายขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงแม้เนื้อเรื่องมันน่าจะสนใจสักแค่ไหน มันก็ช่วยหนังเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ
หนังแนวโรแมนติก-สยองขวัญ ที่มีพล็อตที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่สุดๆ และน่าจะเล่นอะไรได้เยอะดี แต่มันก็กลายเป็นหนังธรรมดาๆ เรื่องนี้ที่ไม่น่าจดจำเอาซะเลย
หนังมีปัญหาตั้งแต่เริ่มเรื่อง กับประเด็นของนางเอกและพ่อ เพราะทั้งคู่ดูรักกันมาก อาลัยอาวรณ์อยู่ตลอด แต่หนังกลับเจาะลึกประเด็นดราม่าของสองพ่อลูกเท่าไหร่เลย นั่นหมายรวมไปถึงพระเอกหน้ามึน ที่ดูเป็นเด็กลึกลับ เพื่อนแต่ละคนไม่ชอบดูเป็นคนแปลก เว็บสตรีมหนังก็ไม่ให้เหตุผลว่าทำไมอยู่ดี อีกทั้งที่มีประเด็นบางอย่างเกี่ยวกับพ่อเหมือนกัน แต่ก็ปล่อยปะละเลย ไม่สนใจปมนี้ดั่งเช่นตัวนางเอก ได้แต่กล่าวถึงแค่เพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น จริงๆ มันไม่ใช่แค่นั้น จริงๆ คือทุกตัวละครในเรื่องนี้ต่างไม่ได้ปูพื้นหลังของแต่ละตัวละครเลย เราเห็นหน้าปุ๊บ ค่อยมารู้เรื่องราว นิดๆ แล้วจบไป ให้น้ำหนักกับตัวละครน้อยเหลือเกิน เราจึงไม่รู้สึกอินหรือเข้าถึงตัวละครใดเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่ดีที่สุดของตัวละครคงเป็น Bella Thorne ที่มีฉากมาอวดหุ่น อวดเรือนร่างสุดเซ็กซี่ให้ตาตื่น หายง่วงได้อยู่พักนึง กับผีสุดหล่อใส่บ็อกเซอร์มาหลอกก็น่าจะทำให้สาวๆ อยากโดนหลอกไปตามๆ กันเช่นกัน
เรามักได้ยินพวกที่เห็นผีบ่อยๆ พูดอยู่เสมอว่า “แยกไม่ออกแล้วไหนคนจริงไหนผี” ซึ่งคำพูดนี้น่าสนใจ และดูตัวอย่างเว็บแรกก็นึกว่ามันต้องเป็นแบบนี้ขึ้นมาทันที แต่มันไม่ใช่ซะงั้น เพราะสิ่งที่มีปัญหาต่อมาคือพวกเหล่าผีนี่แหละ ที่แรกๆ ก็ทำได้ดีนะ กับการที่นางเอกเห็นจนชินตา จนขับรถชนผ่านไปอะไรทำนองนั้น แต่ฉากเมืองที่เต็มไปด้วยผี กลับมีให้เห็นการเดินทะลุน้อยมาก แทบจะไม่มีเลย เหมือนเอาคนมาเดินเพ่นพ่าน ไม่ได้ตื่นเต้น กลายเป็นฉากน่าเบื่อฉากนึงไปโดยปริยาย
การแสดงของนักแสดงในหนังเรื่องนี้แต่ละคนก็ถือว่าพอใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมากนัก นางเอกของเรื่อง เบลล่า ธอร์น หากไม่พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้เธอมีความสดใสน่ารักดี แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ ผมคิดของเธอทำให้เธอเป็นคนที่ไม่มีความสุขมากนัก เป็นคนช่างสงสัย ต้องการจะหาคำตอบสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสงสัย ตลอดเวลา มีจุดที่ผมสงสัยคือการโชว์เรือนร่างของเธอที่ไม่จำเป็นในภาพยนตร์
โดยรวม
ภาพรวมนั้น I Still See You เป็นหนังที่มีคอนเซปต์น่าสนใจมากที่ว่าด้วย “โลกมนุษย์ที่คนเป็นและคนตายอยู่ในพื้นที่เดียวกัน” แต่กลายเป็นว่ายิ่งหนังพยายามขมวดปมและหาเหตุผลรองรับให้กับปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวนางเอก ยิ่งกลายเป็นว่าหนังจะอ่อนพลังความน่าเชื่อถือ ในแง่ของภาพรวมไปอย่างน่าเสียดาย ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจในฉากต่างๆ ก็ดูสอบตกในแง่การสร้างความตื่นเต้น น่าหวาดกลัว ดนตรีประกอบโครมครามยังกลายเป็นปัจจัยหลักในการเร้าอารมณ์ ยังไม่รวมไปถึงบทสรุปที่ไม่ยากแก่การคาดเดาว่าจริงๆแล้ว คนที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็น “คนใกล้ตัว” ของรอนนี่ ที่ชักใยและบงการเธอเพื่อหวังประโยชน์บางอย่างจากตัวรอนนี่เอง
สรุป
มองผ่านไปก็คงไม่เสียดายอะไรสักเท่าไหร่หรอก นอกจากคุณจะเป็นแฟนคลับ Bella Thorne แล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลมากพอให้เสียตังไปดูเรื่องนี้จริงๆ ซื้อนิยายอ่านน่าจะเวิร์คกว่า (มั้ง) ถึงแม้หนังจะพยายามเอาหลายๆ แนวมารวมกัน ทั้งโรแมนติก สยองขวัญ ระทึกขวัญ แต่หนังก็ทำไม่ได้สักเรื่องเลย แม้จะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญแต่ก็เน้นการสืบสวนสอบสวนหาที่มาและที่ไปของเรื่องมีการจบ ที่ค่อนข้างดีมีการเชื่อมโยงเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจน แต่ขาดความสนุกสนานและการน่าติดตามของหลังไปมากทีเดียว
Comentários