รีวิว Friend Zone - ระวัง...สิ้นสุดทางเพื่อน
หน้าหนังยังคงมาในสไตล์โรแมนติก-คอมมีดี้ แนวถนัดของ GDH แต่เมื่อได้ชมกับรู้สึกว่าชีวิตรักของตัวละครหลักทั้งปาล์ม และ กิ๊ง กลับไม่ได้ดำเนินมาบนเส้นทางที่พบกับความสุขหอมหวานเลยนะ ตรงกันข้ามกลับเต็มไปด้วยน้ำตา บทกิ๊งของใบเฟิร์น ร้องไห้แทบทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่จับได้ว่าพ่อแอบมีเมียน้อย รู้สึกเก้อ ๆ เขิน ๆ เมื่อปาล์มเผยความรู้สึกกับกิ๊งว่าเป็นแค่เพื่อนตั้งแต่ในวัยมัธยม คบกับแฟนรุ่นพี่มา 10 ปีก็ไปมีกิ๊ก จนกระทั่งมาคบกับพี่เท็ด บทของเจสัน ยัง ก็เป็นความรักที่ดำเนิน ไปบนความหวาดระแวง วิตกกังวลตลอดเวลาว่าพี่เท็ดจะนอกใจ ต้องตามสืบอยู่ตลอดเวลา ส่วนปาล์มก็กลายเป็นสจ๊วตเจ้าเสน่ห์ มีสาว ๆ ไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่ได้มีความสุขสมหวังสักคน เพราะแม้แต่ปากจะบอกกับกิ๊งว่าเป็นเพื่อนแต่ก็แอบรักแอบหวัง อยู่เสมอ แค่กิ๊งโทรหาปาล์มก็รีบแจ้นไปหาทุกที่ทุกเวลา แม้จะอยู่ต่างประเทศ รีวิว Friend Zone
เรื่องย่อ
คำเตือน! ที่เพื่อนทุกคนพึงระวัง เขตกักกันความสัมพันธ์ ที่ห้ามรักกันเกินกว่าเพื่อน บนโลกใบนี้ คงมีชายหญิงอีกหลายคู่ที่กำลังไต่อยู่บนตะเข็บชายแดนแห่งความสัมพันธ์ของความเป็น “เพื่อน” กับ “แฟน” ซึ่งพื้นที่เล็กๆริมชายแดนตรงนี้มีชื่อเรียกแบบสากลว่า FRIEND ZONE หรือเขตแดนพิเศษของ คนที่อยู่ในสภาพ...กลับตัวไปเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ ให้ไปเป็นแฟนก็ไปไม่ถึง ปาล์ม (นาย - ณภัทร เสียงสมบุญ) คือ หนึ่งในคนที่ติดอยู่ใน FRIEND ZONE ของ กิ๊ง (ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เพื่อนสนิทของเขามานานเป็น 10 ปี ปาล์มเคยพยายามจะออกจากเขตแดนพิเศษนี้ ด้วยการสารภาพรักกับกิ๊งไปตอน ม.ปลาย แต่ถูกกิ๊งปฏิเสธง่ายๆด้วยคำว่า “เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว”
นับจากวันนั้น ปาล์มกับกิ๊งก็เป็นยิ่งกว่าเพื่อนสนิท ทุกครั้งที่ปาล์มเลิกกับแฟนไม่ว่ากี่คนต่อกี่คน กิ๊งก็จะคอยด่าเตือนสติ และถ้ากิ๊งมีปัญหาทะเลาะกับแฟน ไม่ว่ากิ๊งจะอยู่ที่ไหน จะพม่า มาเลย์ หรือฮ่องกง แค่เพียงโทรมา สจ๊วตอย่างปาล์มก็พร้อมจะบินไปหาทันที ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความใจดีเหนือขีดจำกัดนี้หรือเปล่า ที่ทำให้เมื่อกิ๊งมีปัญหากับพี่เท็ด (เจสัน ยัง) แฟนคนปัจจุบัน จู่ๆกิ๊งก็ถามปาล์มขึ้นมาว่า “แกเคยคิดไหม... ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันจะเป็นยังไง” ทันใดนั้น สัญญาณเตือนภัยในใจปาล์มก็ดังขึ้นถี่ๆ เพราะปาล์มรู้ดีว่านี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่เขาจะได้ออกจาก FRIEND ZONE เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าการออกไปครั้งนี้ จะทำให้เขาได้เริ่มต้นทางแฟน หรือสิ้นสุดทางเพื่อนกับกิ๊งกันแน่!!! FRIEND ZONE ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน 14 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ #FriendZone #ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน
เหมือนว่าโจทย์ถูกบังคับให้ดูหนังสดจะต้องออกมาเป็นโรแมนติก-คอมมีดี้ แม้ว่าเนื้อหาบนชะตากรรมตัวละครจะเศร้าปานใด หนังก็เลยยัดเยียดมุกลงไปให้เกิดเสียงหัวเราะได้ทุก ๆ 5 นาที หลายมุกทีเล่นกับสถานการณ์กระอักกระอ่วน เก้อเขิน ก็ได้ผลดี มุกที่มากับบทสนทนาแซวจิกกัดก็ได้เสียงหัวเราะไปเสียทุกครั้ง แต่บางมุกก็ฝืนเกินไป เหมือนมุกในละครหัวค่ำ
อย่างตอนปาล์มเอาช็อคโกแลตลาวามาทารอบปากแทนหนวดเคราเพื่อล้อเลียนพี่เท็ด มุกที่ปาล์มแต่งเนื้อร้องแซวกิ๊งใส่ทำนองเพลง “คิดมาก” ก็ไม่ได้รู้สึกขำตาม หรือมุกลิงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ก็ดูแล้วเหมาะกับหนังตลกสไตล์โก๊ะตี๋-น้าค่อมมากกว่านะ ถ้าไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาพยายามให้ตลก ลดระดับมุกต่าง ๆ ให้พอมีบ้าง แล้วไปขยี้เรื่องราวดราม่าของปาล์ม – กิ๊ง น่าจะพาไปถึงระดับน้ำตาแตกได้พอ ๆ กับ FANDAY เพราะตลอดเรื่องคนดูก็ได้รู้จักตัวตนของปาล์ม-กิ๊งมาพอดู ต่างก็ลุ้นให้คู่นี้ได้เปิดปากบอกความในใจกันเสียที ลุ้นให้ลงเอยกันเสียที
ซึ่งหนังก็เล่นกับเรื่องราวตรงนี้พอสมควร โดยเฉพาะฉากเปิดใจในห้องพักรีสอร์ท ทั้งใบเฟิร์นและนายต่างก็ทำหน้าที่ได้ดี กับฉากกดดันตึงเครียดทั้งบนจอทั้งในโรงที่ร่วมลุ้นว่าคู่นี้จะลงเอยกันอีท่าไหน สำหรับใบเฟิร์นนี่เก่งมากอยู่แล้วกับฉากอารมณ์แบบนี้ น้ำตาเหมือนสั่งได้เสมอ เป็นดาราสาวที่ร้องไห้แล้วดูน่าสงสารตลอด สำหรับนาย ณภัทร ที่เพิ่งรับงานแสดงเต็มตัวเรื่องแรกแล้วต้องมาเจอฉากอารมณ์แบบนี้ก็ถือว่าสอบผ่านนะครับ แม้ว่าหลาย ๆ ฉากจะโดนใบเฟิร์นดึงความสนใจไปหมด
หนังมีฉากที่เล่นกับอารมณ์ได้เยอะมากเว็บสตรีมหนัง ฉากนัดพบที่เจดีย์ชเวดากอง ฉากที่กิ๊งมาดักเจอปาล์มบนลู่จักรยาน แต่ทั้งหมดก็มาได้ในระดับอึน ๆ ตึง ๆ ยังไม่ถึงขั้นสะกิดต่อมน้ำตาได้ ถ้าผู้สร้างไม่ต้องห่วงว่าหนังจะต้องเป็นคอมมีดี้ แล้วจัดหนักกับฉากดราม่า เชื่อว่าองค์ประกอบของหนังที่ปูมาตั้งแต่ต้น กับความรักที่ไม่เจอกันสักทีของทั้งคู่ แล้วยิ่งเป็นเรื่องราวของเพื่อนรักเพื่อนที่เป็นประสบการณ์ใกล้ตัวหลาย ๆ คน ยิ่งเกินพอที่จะพาให้ฉากดราม่านี่ถึงขั้นน้ำตาแตกได้ง่าย ๆ แล้วหนังก็จะมีฉากจดจำได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้
การเล่าเรื่องก็ถือว่าเล่าอย่างมีลูกเล่นชั้นเชิง ไมได้เดินเรื่องแบบเส้นตรงแต่ถูกเล่าผ่านตัวปาล์มถึงชีวิตรักของเขาและกิ๊งตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มีการเล่าสลับไทม์ไลน์ไปมา แต่ก็ไม่ได้ชวนงง แถมมีลูกเล่นหักมุมตอนท้ายเล็ก ๆ กับบทสรุปความรักของทั้งคู่ สีสันอีกอย่างของหนังคือการใช้ประโยชน์จากอาชีพสจ๊วตของปาล์ม และการเดินสายบันทึกดนตรีนานาชาติของเท็ด เลยทำให้หนังออกแนวเยี่ยมเยียนประเทศเพื่อนบ้าน
ก็เลยได้เห็นตัวละครบินไปบินมาในประเทศแถบนี้กันครบถ้วน พม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ ซึ่งทีมงานก็หามุมสวย ๆ ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้มาให้เราได้ดูกัน รวมไปถึงมุมสวย ๆ ในกระบี่ที่ดูแล้วก็อยากไปเที่ยวเหมือนกัน หนังอาจจะเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ในชัวโมงแรก ที่เน้นหนักไปวีรกรรมสะกดรอยตามพี่เท็ด ที่ต้องมีปาล์มติดสอยห้อยไปด้วย แต่พอเข้าช่วงท้ายที่ปาล์มตัดสินใจก้าวข้ามกำแพงความเป็นเพื่อนไปแล้ว โทนหนังก็หนักขึ้นทันที ยิ่งทำให้คนดูต้องลุ้นหนักว่าบทหนังจะลงเอยแบบไหน จะใจร้ายหรือใจดีกับตัวละคร
อย่างที่บอกไปข้างต้น หนังมันค่อนข้างจะธรรมดาไปสักหน่อย หนังมันไม่ทำงานกับเรา มันไม่สามารถส่งให้เราอินไปกับหนังมันได้ เราไม่อินความสัมพันธ์ของตัวละครตั้งแต่ต้นแล้วว่าทำไมพระเอกถึงรักนางเอกขนาดนั้น ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเหตุไม่มีผล จุดเริ่มต้นมันมาจากไหน? แล้วรักกันเพราะอะไร? การดำเนินเรื่องมันเลยดูเรียบๆ แต่รีบๆ จนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น หนังก็มีตอนจบที่ดี จริงๆ เราชอบตอนจบของหนังที่ออกมาเป็นแบบนั้นนะ แต่ไม่ชอบวิธีที่ทำให้หนังจบแบบนั้น มันดูไร้เหตุผล ไม่สมเหตุสมผล และยิ่งทำให้เราไม่อินกับเรื่องราวที่ผ่านมาเข้าไปใหญ่
สรุป
Friend Zone ก็ยังอยู่ในมาตรฐานของหนัง GDH และยังคงอยู่ในกลุ่มเดียวกับผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับหมู ชยนพ ที่เคยกำกับ เมย์ไหน…ไฟแรงเฟร่อ , Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ซึ่งมีมุกให้ได้หัวเราะพอขำ ๆ คิก ๆ ได้ทั้งเรื่อง
แต่ก็ไม่มีมุกถึงขั้นฮาแรง ๆ ชวนจดจำ เช่นเดียวกับพาร์ทดราม่าของหนังที่ก็ไมได้พาไปถึงขั้นเสียน้ำตา เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่ได้ดูหนังที่มีภาพสวย ๆ เพลงเพราะ ได้สัมผัสเสน่ห์และความสามารถของใบเฟิร์น ที่ทำให้เราเดินยิ้มออกจากโรงได้ แม้จะไม่ได้เข้าคลาสเป็นหนังท็อป10 ของ GDH ก็ตาม
ไม่ใช่หนังที่แย่แต่อย่างใด มันสนุก ตลก ฮา น่ารัก ใครหลายคนอาจจะอินกับหนังเรื่องนี้ และตลอดทั้งเรื่องมันก็ยังทำให้คุณยิ้มได้เรื่อยๆ เพียงแต่ว่ามันอาจจะธรรมดาๆ ไปสักหน่อยเท่านั้นเอง
Comments