รีวิว Fast & Furious: Spy Racers - เร็วแรงทะลุนรก ซิ่งสยบโลก
Fast & Furious Spy Racers เร็วแรงทะลุนรก ซิ่งสยบโลก แอนิเมชั่น Netflix ที่ต่อยอดจาก Fast & Furious ฉบับโรง โดยได้ “วิน ดีเซล” มาอำนวยการสร้าง แล้วก็ร่วมพากษ์เสียงมีบทของดอมอยู่ในเรื่องด้วยจริงๆ โดยพระเอกในเรื่องนี้เป็นญาติกับดอม ซึ่งเขาฝันอยากเข้าสู่วงการสายลับรัฐบาลเหมือนกัน รีวิว Fast & Furious: Spy Racers
เรื่องย่อ
Tony Toretto นักแข่งข้างถนนที่มีเชื้อสายนักซิ่งของ Dominic Toretto จารชนขาซิ่งระดับตำนาน ได้ถูกชวนให้ทำภารกิจลับโดยจะต้องเข้าไปสืบแก๊งค์ซิ่งนาม Shifter ซึ่งมีเป้าหมายในการขโมยรถ 5 คันเพื่อใช้เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อคอุปกรณ์สุดอันตรายที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ ทำให้เขาและเพื่อนอีก 3 คนคือ Echo, Frostie และ Cisco จะต้องใช้ทักษะในการซิ่งเพื่อหยุดยั้งแผนการโจรกรรมระดับโลกนี้ให้ได้
ต้องบอกก่อนว่าเนื้อหาของอนิเมชั่นซีรี่ส์นี้ ไม่มีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับไทม์ไลน์หนังในภาคหลักเลย ยกเว้นการหยิบเอา Dominic Toretto มาเป็นตัวละครรับเชิญและส่งต่อผ่าน Tony Toretto ญาติสนิทของเขาในการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นหนัง ดังนั้นเนื้อหาของเรื่องนี้มันเลยรู้สึกว่าใหม่มากๆ
อีกทั้งยังมีการพูดถึงหรือหยิบยกตัวละครบางตัวจากหนังมาพูดถึงอย่างเช่น Dominic Toretto หรือว่า คำคมเกี่ยวกับ ปรัชญาการรักครอบครัว ที่ทำให้รู้สึกว่า Tony คือ Dominic รุ่นที่ 2 ที่สามารถสืบทอดและทำให้ซีรี่ส์ F&F นั้นไปต่อได้จริงๆ มันก็เลยทำให้มีเค้าโครงหรือการดำเนินเรื่องในแบบ F&F อยู่
เนื้อเรื่อง
โทนี่ ทอเร็ตโต นักแข่งรถบนถนนกับก๊วนเพื่อนแสบที่มีดีกันคนละอย่าง ได้ถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานเป็นสายลับให้กับรัฐบาล โดยมีบอสเป็นนายหญิงชื่อรหัส “โนแวร์” (No Where) ให้งานเขาตามสืบแก๊งแข่งรถชิฟเตอร์ ที่กำลังตามหากุญแจทั้ง 5 ที่เมื่อรวมกันแล้วอาจจะเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก
ด้วยความที่หนังต้นเรื่อง Fast And Furious ดังจนทำต่อมาเรื่อยๆ แล้วก็แตกเป็นภาค Hobbs And Shaw ที่พึ่งฉายโรงไปไม่นานนี้ นี่ก็เลยเป็นอีกหนึ่งในการแตกแฟรนไชนส์หลักออกมาเป็นซีรีส์แอนิเมชั่นลง Netflix ที่มีความตั้งใจเหมือนทำให้เด็กๆ ได้ดูหนังตระกูลนี้บ้าง
แน่นอนว่าซีรีส์นี้ตั้งใจเซ็ตตัวละครลดอายุนักแข่งลงมาให้เด็กดูโดยเฉพาะ โดยการให้ “โทนี่ ทอเร็ตโต” ได้วาดลวดลายเป็นสายลับนักซิ่งรุ่นเยาว์กับกลุ่มเพื่อนที่มีสกิลแบบเดียวกับทีมดอมผู้ใหญ่ โดยมี “มากาเร็ต” เพื่อนสาวนักแต่งจูนรถซิ่งตัวฉกาจ “ซิสโก้” ช่างเครื่องยนต์ “ฟรอสตี้” แฮ็กเกอร์และนักประดิษฐ์ที่เด็กสุดในเรื่อง (13 ขวบ)
แต่ถึงแม้ตัวละครจะเด็กๆ หน้าหนังก็ดูเด็กๆ มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวเรื่องจะไม่มีความมันส์ในระดับจริงจังแบบภาคหนัง แอนิเมชั่น Fast & Furious เรื่องนี้ยังคงเรื่องราวแนวทางในแบบหนังโรงทุกประการ โดยเซ็ตเรื่องราวให้พระเอกต้องเจอกับลีกการแข่งรถสุดอันตราย ที่พอเป็นแอนิเมชั่นก็เลยโม้โอเวอร์ขึ้นไปอีกหลายเท่าด้วยการให้รถทั้งหลายในเรื่องมีอุปกรณ์สายลับกับอาวุธพิเศษไว้กำจัดคู่แข่งหลากหลายแบบ
บางอย่างก็ดูธรรมดาอย่างลูกบอลสีทำให้เลอะกระจกมองไม่เห็น แต่ส่วนใหญ่คือแนวแบบหนังฆ่ากันตายได้เลยเหมือนหนัง Death Race อย่าง เลื่อยไฟฟ้า ล้อรถติดสว่านไฟฟ้า ฉมวกเจาะลากรถ แต่ว่าพอเป็นแอนิเมชั่นทางผู้สร้างก็เลยไม่ได้ต้องการฉายภาพความรุนแรงแบบเห็นใครตาย
แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่หมวด KID เพราะเรต 13+ ขึ้นไป แต่ก็เป็นการแข่งที่วางเรื่องราวจริงจังถึงตายเหมือนภาคผู้ใหญ่ โดยตามเรื่องที่กำหนดไว้ว่าพระเอกต้องเจอกับแก๊งชิพเตอร์ที่มีผู้นำเป็นนักแข่งรถขั้นเทพชื่อ “ชาชิ” กับคู่หูโจรสาว “เลย์ล่า” ที่เจอหน้าโทนี่ครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตา และตามบดขยี้เขาในการแข่งใต้ดินครั้งแรกของเรื่อง
ถ้าเทียบกับตัวหนัง
แต่ถึงแม้ตัวละครจะเด็กๆ หน้าหนังก็ดูเด็กๆ มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวเรื่องจะไม่มีความมันส์ในระดับจริงจังแบบภาคหนัง แอนิเมชั่น Fast & Furious เรื่องนี้ยังคงเรื่องราวแนวทางในแบบหนังโรงทุกประการ โดยเซ็ตเรื่องราวให้พระเอกต้องเจอกับลีกการแข่งรถสุดอันตราย
ที่พอเป็นแอนิเมชั่นก็เลยโม้โอเวอร์ขึ้นไปอีกหลายเท่าด้วยการให้รถทั้งหลายในเรื่องมีอุปกรณ์สายลับกับอาวุธพิเศษไว้กำจัดคู่แข่งหลากหลายแบบ บางอย่างก็ดูธรรมดาอย่างลูกบอลสีทำให้เลอะกระจกมองไม่เห็น
แต่ส่วนใหญ่คือแนวแบบหนังฆ่ากันตายได้เลยเหมือนหนัง Death Race อย่าง เลื่อยไฟฟ้า ล้อรถติดสว่านไฟฟ้า ฉมวกเจาะลากรถ แต่ว่าพอเป็นแอนิเมชั่นทางผู้สร้างก็เลยไม่ได้ต้องการฉายภาพความรุนแรงแบบเห็นใครตาย
แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่หมวด KID เพราะเรตดูหนังออนไลน์ 13+ ขึ้นไป แต่ก็เป็นการแข่งที่วางเรื่องราวจริงจังถึงตายเหมือนภาคผู้ใหญ่ โดยตามเรื่องที่กำหนดไว้ว่าพระเอกต้องเจอกับแก๊งชิพเตอร์ที่มีผู้นำเป็นนักแข่งรถขั้นเทพชื่อ “ชาชิ” กับคู่หูโจรสาว “เลย์ล่า” ที่เจอหน้าโทนี่ครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตา และตามบดขยี้เขาในการแข่งใต้ดินครั้งแรกของเรื่อง
และไม่ใช่แค่การแข่งรถที่ดุเดือด แต่ในทุกการแข่งจะมีการจารกรรมครั้งใหญ่ของแก๊งชิฟเตอร์ซ้อนทับลงไปในตอนนั้นด้วย (ชิฟเตอร์ใช้การแข่งรถบังหน้าในการจารกรรมทุกครั้ง) ซึ่งก็โอเวอร์สุดๆ ไม่แพ้กัน อย่างการปล้นรถไฟความเร็วสูง โดยการตัดขบวนรถแล้วให้ฮอยกหนีไปทั้งขบวนอะไรแบบนี้ รวมถึงการต่อสู้ตัวๆ มีของเล่นสายลับช่วยเหลือเด็กพวกนี้เพิ่มด้วย
ในตัวเรื่องราวหลักยังคงแบบหนังฟาสภาคแรกๆ โดยให้ทีมพระเอกต้องแฝงเข้าไปเป็นผู้ช่วยของชิฟเตอร์ที่นำโดย ชาชิ และก็มีการทดสอบวัดใจหาความซื่อสัตย์ที่ทีมพระเอกต้องผ่านไปให้ได้เพื่อแฝงตัวสืบหาว่า ชาชิ กำลังขโมยอะไรกันแน่ ซึ่งบอกเลยว่าโม้ได้เท่าเทียมหนังโรงและก็เข้าท่ามากๆ กับสิ่งที่ยึดโลกได้ชั่วพริบตา!
ธีมครอบครัวยังอยู่
ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงถอดแบบธีม “ครอบครัวต้องมาก่อน” จากต้นฉบับเป๊ะๆ ซึ่งทำให้โทนี่ต้องเป็นคนที่ยึดถือตรงนี้เหมือนดอม และก็ทำทุกอย่างแม้จะแหกกฎเพื่อรักษาครอบครัวไว้ รวมถึงการที่ได้ร่วมผจญภัยกับคู่แข่งฝีมือฉกาจ เสี่ยงตายด้วยกันจนสุดท้ายกลายเป็นมิตรภาพ และร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน
แม้ว่าเรื่องราวจะคงธีมต้นตำหรับไว้ได้หมด และก็ทำได้ดีมากเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ต้องบอกว่าแย่และไม่เข้าท่าในเรื่องคือพวกมุกตลกเด็กๆ ซ้ำซาก อย่างให้ตัวละครติดเครื่องดื่มน้ำหวาน ไอติม มุกตด มุกร้องเพลงทำตัวน่ารำคาญ ที่พยายามยัดเยียดเข้ามาซ้ำๆ ตลอดเวลาแบบแป๊กแล้วก็ยังไม่เลิก
คือไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ดูแล้วไม่เข้าใจ แต่ในเรื่องเป็นการยัดเข้ามาแบบไม่เข้าท่ามากกว่า ทำให้ตัวละครในทีมพระเอกที่เอาแต่เล่นมุกพวกนี้ดูงี่เง่าและไม่เข้ากับเรื่องที่กำลังคอขาดบาดตาย โดยที่ตัวละครอย่างโทนี่ก็ไม่ได้มีเล่นมุกแบบนี้เลย แต่มุกตลกอื่นๆ นอกนั้นในเรื่องก็สนุกและขำได้แบบแนวเว็บดูหนังเด็กอย่าง Spy Kid โอเคเลยล่ะครับ
เรื่องคุณภาพ
งานในส่วนแอนิเมชั่นของเรื่องนี้ดูลื่นไหลดีมาก ดีกว่าที่เห็นในเทรลเลอร์ตัวอย่าง และก็ไม่มีดรอปลงเลยตลอดเรื่อง ฉากแข่งรถไวๆ ก็ยังเห็นรายละเอียดชัดเจน ไม่มีภาพแอนิเมชั่นเฟรมเรตต่ำให้เห็นเลยแม้แต่น้อย รวมถึงงานพากษ์เสียงไทยที่ไม่ขัดหูเลย แนะนำว่าดูพากษ์ไทยเพลินกว่าจริงๆ ครับ และวิน ดีเซลก็มาให้เสียงกับบทดอมจริงๆ ในตอนแรกกับตอนจบของเรื่อง ที่มาน้อยแต่ยังมา และก็ทำให้นับเรื่องนี้เข้าไปในจักรวาล Fast And Furious ได้เช่นกันครับ
โดยรวม
ซีรีส์เรื่องนี้มี 8 ตอนจบ ตอนละ 20 นาทีนิดๆ ดูแปบๆ จบแล้ว แต่เริ่มเรื่องอาจจะต้องพยายามทำใจลบล้างความเป็นการ์ตูนๆ เว่อร์ๆ ที่ดูแปลกจากเวอร์ชั่นคนแสดงสักหน่อย แต่พอเริ่มตอน 3 ไปแล้วเรื่องราวเริ่มจริงจังมากๆ ก็รู้สึกว่าโอเคเลยล่ะกับการที่ Fast And Furious มีฉบับแอนิเมชั่นแบบนี้ แต่ก็ยังมีมุกเว่อร์ๆ หลุดโลกแบบการ์ตูนแก๊กอยู่ตลอดเรื่อง อันนี้คงแล้วแต่ว่าผู้ใหญ่ดูแล้วรับได้ไหม แต่เด็กๆ น่าจะชอบแน่ครับ
สรุป
เป็นการขยายแฟรนไชส์ของซีรี่ส์หนังซิ่งออกมาได้ประทับใจในระดับหนึ่ง ผมเองก็เป็นแฟนซีรี่ส์นี้มาตั้งแต่ต้น จากที่ดูมาทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 20 กว่านาที ถือว่าเรื่องนี้สอบผ่านในการเป็นแฟรนไชส์ F&F แบบคาบเส้น
ถ้าคุณมีลูกชายน่ารักๆ และเป็นแฟนหนังซิ่ง Fast and Furious ด้วยแล้ว การรับชม Fast & Furious Spy Racers คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่คุณและลูกจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน และถกคุยเรื่องราวของซีรี่ส์นี้อย่างมีความสุข แต่ถ้าไม่มีครอบครัว อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดุเอาเพลินๆ รอภาค 9 ก็ได้เช่นกัน
Comments