รีวิวซีรีย์
รีวิว Altered Carbon - อัลเทอร์ด คาร์บอน
Altered Carbon อัลเทอร์ด คาร์บอน เป็นซีรีส์ไซไฟโลกอนาคตแนวไซเบอร์พังค์ สร้างโดย Laeta Kalagridis ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของนักเขียนชาวอังกฤษ Richard K. Morgan ซึ่งได้ฉายลงในสตรีมมิ่ง Netflix เป็นครั้งแรกในปี 2018 และก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกพอสมควร รีวิว Altered Carbon
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกี่ยวกับโลกในอนาคตที่มนุษย์แทบจะสามารถเอาชนะความตาย แล้วทำให้ผู้คนกลายเป็นอมตะได้โดยการแบ็กอัพจิตของตนลงในเปลือก หรือร่างที่ถูกโคลนขึ้นมาใหม่ เป็นการเก็บเอาความทรงจำและบุคลิกทั้งหมดของคนผู้นั้นต่อ แต่ความเป็นอมตะนั้นก็ถูกนำมาใช้ประโยชน์และถูกครอบครองไว้โดยกลุ่มชนชั้นสูง มหาเศรษฐี ผู้มีอำนาจ ในขณะที่ชนชั้นล่างก็ถูกกดขี่และถูกใช้ประโยชน์ต่อไป
Altered Carbon จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในอนาคตที่มนุษย์แทบจะสามารถเอาชนะความตาย แล้วทำให้ผู้คนกลายเป็นอมตะได้โดยการแบ็กอัพจิตของตนลงในเปลือก หรือร่างที่ถูกโคลนขึ้นมาใหม่ เป็นการเก็บเอาความทรงจำและบุคลิกทั้งหมดของคนผู้นั้นต่อ แต่ความเป็นอมตะนั้นก็ถูกนำมาใช้ประโยชน์และถูกครอบครองไว้โดยกลุ่มชนชั้นสูง มหาเศรษฐี ผู้มีอำนาจ ในขณะที่ชนชั้นล่างก็ถูกกดขี่และถูกใช้ประโยชน์ต่อไป
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ เกิดคดีฆาตกรรม เมื่อมหาเศรษฐีผู้มีอำนาจที่สุดผู้หนึ่งถูกฆาตกรรม เมื่อเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากแบ็กอัพจิตของตนไว้ส่งต่อไปยังร่างใหม่ของตนแล้ว ก็ต้องการสืบหาว่า ใครคือฆาตกร ดังนั้นเขาจึงได้เลือกปลุกอดีต เอนวอย หรือผู้ที่ถูกฝึกมาเพื่อให้สามารถปรับตัวเองเข้ากับสภาพเปลือกและสภาวะทุกประเภท และเป็นอดีตนายทหารของกองกำลัง CTAC ที่แปรพักตร์ไปเข้ากับกองทัพกบฏผู้หนึ่งที่ชื่อ ทาเคชิ โคแวช ซึ่งดวงจิตของเขาถูกจองจำไว้กว่า 250 ปีให้คืนชีพกลับขึ้นมาในร่างกายใหม่ แล้วให้ทำหน้าที่สืบหาฆาตกรตัวจริง พร้อมรางวัลที่จะอภัยโทษทุกความผิดที่ผ่านมาแก่เขา ดังนั้นทาเคชิจึงออกสืบหาความจริง ว่าใครคือฆาตกร
ซึ่งระหว่างนั้นทาเคชิก็ได้โคจรมาพบกับ ผู้หมวดสาว คริสทิน ออเตก้า ที่กำลังตามสืบคดีอยู่เช่นกัน กระทั่งพวกเขาได้พบว่า คดีฆาตกรรมของมหาเศรษฐีผู้นี้มีอะไรบางอย่างที่ลึกลับซักซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าที่คิด แถมยังโยงดูหนังไปถึงกลุ่มคนที่ทรงอำนาจและอันตรายอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
10 เรื่องควรรู้ที่จะทำให้เข้าใจโลกของ Altered Carbon
1. Cortical Stack: สิ่งที่สำคัญที่สุดของเรื่อง หมายถึงดวงจิตบริสุทธิ์ของมนุษย์ที่รวบรวมข้อมูลความทรงจำ ความสามารถ ทักษะ สติสัมปชัญญะ ของคนนั้น และนำมาเข้ารหัสผ่านระบบ DHF (Digital Human Freight) ให้กลายเป็นรูปข้อมูลดิจิทัลเพื่อนำไปถ่ายทอดสู่ร่างกายใหม่ๆ เพื่อรักษาดวงจิตนั้นให้คงอยู่ตลอดไป
การมีชีวิตที่ยาวนานขึ้นเปิดโอกาสให้เจ้าของสแต็กพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองให้สูงขึ้น จนบางคนสามารถมองอนาคตในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจากพลังพิเศษ แต่ได้มาจากการขัดเกลาการวิเคราะห์ผ่านประสบการณ์การใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน
2. Sleeve: คือ ‘เปลือก’ หรือร่างกายเปล่าที่เป็นภาชนะรองรับข้อมูลจากสแต็กที่บันทึกเอาไว้ โดยสแต็กจะถูกฝังไว้ที่ท้ายทอยของร่างนั้นๆ เพราะฉะนั้นการทำลาย ‘เปลือก’ จึงไม่ส่งผลใดๆ ต่อ ‘ชีวิต’ ของคนนั้นๆ ตราบเท่าที่สแต็กยังไม่ถูกทำลาย (ยกเว้นคนนั้นจะนับถือศาสนาที่ต่อต้านเทคโนโลยีนี้ และจะไม่สามารถเรียกดวงจิตของคนนั้นกลับมาได้ ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม)
และไม่เพียงข้อมูลจากสแต็กเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถบันทึกเอาไว้ได้ เพราะในทุกๆ เปลือกจะบันทึกหน่วยความจำกล้ามเนื้อของเจ้าของร่างคนเก่าเอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้นยิ่งได้เปลือกที่มีความสามารถมากเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นผลดีกับเจ้าของสแต็กมากขึ้นเท่านั้น และแน่นอนว่าราคาของเปลือกที่มีคุณภาพก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
3. Clone: การย้ายสแต็กไปสู่เปลือกใหม่บ่อยๆ โดยเฉพาะเปลือกที่มีพื้นฐานแตกต่างจากดวงจิตเดิมมากๆ จะทำให้มีโอกาสเกิด ‘สถาวะดวงจิตแตกสลาย’ จึงเกิดเทคโนโลยีการสร้างร่างโคลนขึ้นมา เพื่อย้ายดวงจิตไปสู่ร่างเดิมซ้ำไปซ้ำมา โดยไม่ต้องเปลี่ยนร่างกายบ่อยๆ ทำให้สามารถรักษาตัวตนเดิมเอาไว้อย่างสมบูรณ์และทำให้มนุษย์เข้าใกล้คำว่าอมตะอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากค่ายใช้จ่ายจำนวนมหาศาลทำให้มีเพียงคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่สามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้
4. Needle Cast: อีกหนึ่งเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่สามารถเลือกแบ็กอัพทุกๆ ช่วงเวลาของดวงจิตเอาไว้เมื่อไรก็ได้ ส่งผลให้คนที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะยังมีดวงจิตของตัวเองหลงเหลืออยู่ แม้ว่าสแต็กจะถูกทำลายไปแล้วก็ตาม
5. Meths: ย่อมาจาก Methuselahs ซึ่งหมายถึงกลุ่มชนชั้นสูงหรือมหาเศรษฐีที่สามารถเลือกใช้เปลือกใดก็ได้ตามที่ต้องการ รวมไปถึงการย้ายสแต็กสู่ร่างโคลนของตัวเอง รวมทั้งการทำนีดเดิล แคสต์ได้อย่างอิสระเป็นกลุ่มคนที่มีทั้งเงินและอำนาจมหาศาลจนสามารถทำได้ทุกอย่างบนโลกใบนี้
6. Laurens Bancroft: หนึ่งใน Meths ที่เป็นผู้เริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดใน Altered Carbon แบนครอฟต์คือมหาเศรษฐีที่ใช้ชีวิตผ่านการเปลี่ยนถ่ายสแต็กจนมีอายุ 360 ปี อย่างราบรื่นมาตลอด จนกระทั่งเขาถูกฆาตกรรมจนสแต็กเสียหาย และเมื่อแบ็กอัพข้อมูลจากนีดเดิล แคสต์ของตัวเองกลับมา เขาพบว่าความทรงจำในช่วงที่เขาถูกฆาตกรรมหายไป และเขาต้องการสืบให้ได้ว่าใครคือคนร้ายในครั้งนี้
7. Takeshi Kovacs: อดีตนายทหารผู้ซื่อสัตย์ที่กลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีก่อกบฏ และถูกลงโทษขังดวงจิตของเขาเอาไว้เป็นเวลา 250 ปี ก่อนที่จะถูกแบนครอฟต์ ปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อตามหาคนร้ายในครั้งนี้
8. Envoy: กลุ่มคนที่รวมตัวกันขึ้นเพื่อหยุดเทคโนโลยีการเปลี่ยนดวงจิตในยุคแรกๆ ที่เริ่มต้นขึ้นมา โดยสมาชิกทั้งหมดจะได้รับการฝึกให้กลายเป็นหน่วยรบพิเศษที่มีความสามารถด้านต่อสู้อย่างรอบด้าน แต่ต่อมาถูกปราบปรามและกล่าวหาว่าเป็นกบฏและผู้ก่อการร้าย ซึ่งโคแวชเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มนี้เช่นกัน
9. Kristin Ortega: ผู้หมวดแห่งหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เริ่มต้นจากสงสัยในการตื่นขึ้นมาของโคแวช เป็นตัวแทนของตำรวจสาวผู้ซื่อตรง และถูกท้าทายทางจริยธรรมระหว่างความถูกต้องตามมาตรฐานของสังคมและความถูกต้องข้างในจิตใจของตัวเองอยู่เสมอ
10. Martha Higareda: คนที่มารับบทผู้หมวดออเตกาที่บุคลิกทุกอย่างที่เธอแสดงออกมาสะกดเราได้จนอยู่หมัด จนพูดได้เลยว่าคนนี้คือ ‘แม่มังกร’ (เอมิเลีย คลาร์ก แห่ง Game of Thrones) ของ Altered Carbon จริงๆ
Altered Carbon SS1 ตัวละคร
ทาเคชิ โคแวช อดีตนายทหารเอนวอย ได้ชื่อว่าเป็นนักรบเอนวอยคนสุดท้าย ทาเคชิมีความสามารถในการต่อสู้และทักษะการยิงปืนและการเอาชีวิตรอดรวมถึงการปรับตัวสูงมาก หลังจากถูกจับกุมตัวและจองจำอยู่นับร้อยกว่าปี จึงได้ฟื้นขึ้นมาในเปลือกใหม่ แล้วต้องทำภารกิจสืบคดีฆาตกรรมของมหาเศรษฐี แบนครอฟฟ์ ซึ่งหลังจากล้วงลึกมากขึ้น เขาถึงได้พบว่าคดีนี้มีความซับซ้อนยิ่งกว่าที่คิด แถมยังเกี่ยวโยงกับผู้มีอำนาจที่เขาคาดไม่ถึงด้วย
คริสทิน ออเตก้า ตำราวจนักสืบสาวผู้รักความยุติธรรม ออกสืบสวนคดีที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับทาเคชิ ซึ่งร่างเปลือกในปัจจุบันของทาเคชินั้นที่จริงแล้วคือคนรักเก่าของออเตก้า ทำให้เธอต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวไปด้วย หลังจากผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาด้วยกัน ออเตก้ากลายเป็นหนึ่งในคนที่ทาเคชิไว้วางใจที่สุด
เกลคริส ฟัลโคเนอร์ ผู้นำกองทัพกบฏในตำนาน เธอต้องการล้มล้างอำนาจของพวกชนชั้นสูง รวมถึงต้องการทำลายความเป็นอมตะของการใช้สแตคมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน เธอเป็นคนเกลี้ยกล่อมทาเคชิที่เคยทำงานกับพวก CTAC ให้มาเข้าร่วมกับกลุ่มกบฏ จนก่อเกิดเป็นความรักระหว่างคนทั้งสอง เธอยังเป็นคนสอนเทคนิคในการต่อสู้และการดิ้นรนเอาตัวรอดในโลกเสมือนให้กับทาเคชิและสมาชิกในกองทัพด้วย เธอเสียชีวิตขณะเครื่องบืนถูกระเบิดเมื่อครั้งพวกเอนวอยมาบุกฐานทัพ
เรลลี่ คาวาฮาระ น้องสาวของทาเคชิ ถูกเอาไปเลี้ยงโดยพวกยากูซ่าให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่เล็ก ต่อมาได้กลับมาพบกับทาเคชิอีกครั้ง แล้วทั้งสองก็ได้เข้าร่วมกับกลุ่มกบฏของเกล แล้วก็ตายไปขณะเครื่องบินระเบิด
เรลลี่มีความรักให้ทาเคชิอย่างมาก เพราะเขาคือสมาชิกครอบครัวคนเดียวในโลกที่เหลืออยู่ อีกแง่มุมหนึ่ง เรลลี่ยังทั้งรักและหวงทาเคชิมากเสียจนผิดปกติเกินกว่าแค่พี่น้อง
ลอเรนส์ แบนครอฟฟ์ อภิมหาเศรษฐีที่มีชีวิตใกล้เคียงคำว่าอมตะ หลังจากอยู่มาหลายร้อยปี เขากลับถูกฆาตกรรมอย่างปริศนา หลังจากฟื้นขึ้นมาด้วยจิตที่แบ็กอัพไว้กับร่างสำรอง จึงว่าจ้าง ทาเคชิอดีตเอนวอย ให้ช่วยสืบหาความจริง พร้อมข้อเสนอว่าจะแลกกับการอภัยโทษทั้งหมด ซึ่งยิ่งสืบไปเขาก็พบว่าความจริงมันซับซ้อนกว่าที่เห็น
เนื้อเรื่อง
Altered Carbon อัลเทอร์ด คาร์บอน เป็นซีรีส์ฝรั่งแนวไซไฟโลกอนาคตสไตล์ไซเบอร์พังค์ ซึ่งช่วง 10 ปีหลังมานี้แทบจะหาดูยากมาก โดยคอนเซปต์ของเรื่องเล่นเกี่ยวกับโลกอนาคตที่ความตายกลายเป็นสิ่งที่สามารถเอาชนะได้ เพราะทุกคนสามารถแบ็กอัพจิตของตนเองไว้ในรูปแบบดิจิทัล แล้วถ่ายทอดลงสู่ร่างเปลือกใหม่
ที่จริงแล้ว แนวคิดนี้ไม่ใช่ของใหม่สำหรับนิยายหรือหนังไซไฟที่เล่ากันมา แต่อยู่ที่ว่าแต่ละเรื่องจะนำเสนอได้น่าสนุกหรือดูสมจริงขนาดไหน ซึ่งในแง่การจำลองภาพของโลกอนาคตและเล่าเรื่องราวก็ถือว่าทำได้น่าเชื่อถือมากในระดับหนึ่ง
ในเรื่องยังมีการคาดการณ์ไปว่า ถ้ามนุษย์สามารถคิดระบบแบ็กอัพจิตขึ้นมาได้แล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตามที่เรื่องนำเสนอคือความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสนองความต้องการของผู้คนไปด้วย
สำหรับการเดินเรื่องในซีรีส์นั้น ช่วงแรกเน้นแนะนำโลกและตัวละครหลักในเรื่อง โดยแบ่งเป็นสองเส้นเรื่องหลักคือ ทาเคชิ และ ออเตก้า แล้วค่อยๆมาบรรจบกัน หลังจากทั้งสองคนต้องสืบคดีที่มีความเกี่ยวข้องกัน แล้วพบว่าคดีของพวกเขาไปเกี่ยวพันกับกลุ่มอำนาจที่คาดไม่ถึง นอกจากนี้โปรแกรมหนังก็เล่าเรื่องสลับกับอดีตของทาเคชิในสมัยที่เขาเคยอยู่กับกองกำลังเอนวอยและต่อมาอยู่กับกลุ่มกบฏ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งถือว่าทำได้ดีครับ
ที่สำคัญคือ การแสดงของนักแสดงหลักบางคนในเรื่องนี้ เข้าขั้นว่าดีเยี่ยมเกินคาดมาก ไม่ว่าจะเป็น โจเอล คินนาแมน และ วิล ยุนลี ที่ต่างก็มารับบท ทาเคชิ โคแวช ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในเรื่อง แต่ทั้งสองก็ทำได้ดีในการแสดง ทั้งสีหน้าท่าทาง ทำให้แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นคนละเชื้อชาติกันเลย แต่ก็พอเชื่อได้ว่า พวกเขาคือทาเคชิ
ด้านนักแสดงหญิง ได้มาร์ธา ฮิกาเรต้า ซึ่งเป็นนักแสดงสาวสุดเซ็กซี่มารับบทตำรวจสาว ออเตก้า ก็ทำได้ดีมาก ซึ่งในเรื่องมีบทที่ต้องบู๊ชนิดเจ็บตัวหนักอยู่ ก็แสดงได้ดี รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆในเรื่องด้วย
ส่วนด้าน CG กราฟฟิก อยู่ในระดับค่อนบวก คือเนื่องจากตัวเรื่องไปเน้นที่เนื้อหาและการไขปริศนาเป็นหลัก จึงไม่ได้โฟกัสไปที่ด้านนี้มากนัก แต่บทที่จะต้องใช้ก็ทำได้ดีเยี่ยม ทั้งในฉากต่อสู้และอื่นๆ
ข้อด้อย
ถ้าจะมีข้อด้อยอยู่บ้าง ก็คือในช่วงแรกยังเดินเรื่องไม่ค่อยน่าติดตามเท่าที่ควร รวมกับคนดูต้องทำความเข้าใจโลกในเรื่องผ่านทางข้อมูลและคำบอกเล่าของตัวละครเอาเอง ทำให้คนที่ไม่ชอบแนวไซไฟแบบไซเบอร์พังค์อาจจะไม่ชอบนัก
ที่สำคัญคือเรื่องนี้จัดอยู่ในเรต 18+ มีฉากโป๊เปลือย และฉากรุนแรงตลอดทั้งเรื่องด้วย จึงไม่เหมาะสำหรับเด็กและไม่เหมาะสำหรับดูกันแบบครอบครัวครับ
สรุป
นี่เป็นสุดยอดซีรีส์ไซไฟแนวไซเบอร์พังค์ ที่นับวันยิ่งหาดูยาก แต่เรื่องนี้ทำได้ยอดเยี่ยม มีสัดส่วนของ ไซไฟ สืบสวน แอ็กชั่น ดราม่า โรมานซ์ ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งก็คาดหวังว่าในซีซัน 2 จะยังสามารถทำได้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก ซึ่งซีซัน 2 สามารถรับชมได้ใน Netflix
Comments