top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนattempt pai

Little Monsters


รีวิวหนัง Little Monsters ลิตเติ้ลมอนสเตอร์ ซอมบี้มาแล้วงับ


Little Monsters อาจจะเป็นแค่หนังซอมบี้ดาษดื่นธรรมดาทั่วไป ถ้าหากมันเลือกจะเล่าเรื่องราวของคุณครูโรงเรียนอนุบาลพาเด็กๆหนีตายจากซอมบี้กระหายเลือดเพียงเพื่อเน้นความตื่นเต้น ระทึกใจของผู้ชม ท่ามกลางองค์ประกอบภาคบังคับในหนังซอมบี้ หนังเรื่องนี้กลับใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความน่าสนใจบางอย่าง รีวิวหนัง Little Monsters ลิตเติ้ลมอนสเตอร์

หนังซอมบี้พล็อตแหวกแนวเรื่องนี้กำกับและเขียนบทโดยผู้กำกับที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเข้าไปร่วมกิจกรรมโรงเรียน แล้วพบว่าการเป็นครูอนุบาลนั้นไม่ง่าย แถมมีความเสี่ยงในการดูแลเล็กร้อยพ่อพันแม่ที่ต้องมาฝากไว้ในมือของครูคนเดียว ซึ่งงานต้องการความใส่ใจและปกป้องพวกเด็กๆ มากเป็นพิเศษกว่าอาชีพอื่นๆ นั่นเลยเป็นไอเดียและที่มาของเรื่องราวหนังเรื่องนี้

ซึ่งไม่ใช่มู๊ดโทนหนังซอมบี้สยองขวัญหรือฮาทั่วไปแบบที่เคยมีมาก่อน ถึงแม้หน้าหนังหรือตัวอย่างจะดูเป็นหนังที่ตลกเอามากๆ แต่ตัวหนังจริงๆ กลับไม่ได้ตลกมากมายอะไร เรียกว่าแค่ขำๆ ไปกับความน่ารักใสซื่อของเด็กที่ถูกครูสาวหลอกว่านี่เป็นเกมคนแต่งตัวมาเล่นไล่จับ ไม่ใช่ซอมบี้จริงๆ ที่ต้องน่ากลัวอะไรแบบนั้น

หน้าหนังจะเน้นขายชื่อ ลูพิตา นยองโก ใส่ภาพเธอเด่นสุดบนโปสเตอร์เลย ด้วยความตั้งใจล้อเลียนหนัง The Sound of Music หนังคลาสสิกตลอดกาลเมื่อปี 1965 ก็เพราะบทบาทคุณครูแคโรไลน์ ที่มีอูคูเลเล่คู่ใจไว้คอยเล่นและขับร้องเพลงร่วมกับเด็ก ๆ เป็นบทที่ละม้ายกับ แมเรีย จากหนังคลาสสิกดังกล่าวนั่นเอง แม้ว่าหน้าหนังจะเน้นขายเธอเป็นหลัก

แต่เอาเข้าจริงแล้วหนังก็สร้างสรรค์ตัวละครได้หลากหลายและมีสีสัน โดยเฉพาะบท “เดวิด” ของ อเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์ ที่มีช่วงเวลาบนจอมากกว่าลูพิตาด้วยซ้ำ และเป็นตัวเรียกเสียงฮาหลักของเรื่องนี้เลย อาเบ สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ของเดวิด ออกมาได้อย่างเด่นชัด เป็นหนุ่มที่ไม่เอาไหนจริง ๆ ชีวิตไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เปิดหมวกร้องเพลงไปวัน ๆ เลิกกับแฟน ออกจากบ้าน

ต้องมาอาศัยพี่สาวอยู่ แล้วช่วยดูแล เฟลิกซ์ หลานชายวัย 5 ขวบ ทำให้เดวิดได้เจอกับคุณครูแคโรไลน์ แล้วเกิดหลงเสน่ห์ของคุณครู ก็เลยเสนอตัวเป็นอาสาสมัครช่วยดูแลเด็ก ๆ ในทริปทัศนศึกษา ทำให้ตัวละครหลักทั้งหลาย ต้องมาร่วมชะตากรรมท่ามกลางฝูงซอมบี้ด้วยกัน

หนูน้อย ดีเซล ลา ทอร์รากา ผู้รับบทเป็น เฟลิกซ์ นี่ตัวขโมยซีนชัด ๆ เอาใจคนดูได้อยู่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดตัว เป็นทั้งเด็กที่น่าสงสารและใช้ความไร้เดียงสาเรียกเสียงฮาได้ชะงัดจริง ๆ ผู้กำกับอาเบ ฟอร์ไซธ์ บรรจงเขียนให้เฟลิกซ์เป็นตัวปล่อยมุกได้มากมาย ทุกครั้งที่สวมชุด ดาร์ธ เวเดอร์ นี่ได้เสียงฮาระเบิดระเบ้อทุกครั้ง บอกได้เลยว่าหัวใจของเรื่องก็คือเจ้าหนู เฟลิกซ์ นี่ล่ะ แสดงหนังได้ดูเป็นธรรมชาติมาก เก่งเกินวัยจริง ๆ

สำหรับ ลูพิตา นยองโก ดาราดีกรี 1 ออสการ์ กับบทแบบนี้ เหมือนงานเล่นแก้เซ็งไปช่วงว่าง ๆ ผ่านไปแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ของเธอ ได้มาลองเล่นหนังคอมเมดี้ดูบ้าง หลังจากผ่านมาแล้วทั้งงานดราม่าหนัก ๆ งานสยองขวัญ หนังมาร์เวล บทบาทของเธอไม่ได้มีอะไรน่าจดจำหรอกครับ แต่จุดที่น่าชื่นชมคือความตั้งใจหัดเล่นอูคูเลเล่เพื่อบทนี้โดยเฉพาะ

ซึ่งเธอก็ได้โชว์คุ้มทั้งร้องทั้งเล่น เพราะอาเบ ฟอร์ไซธ์ ก็สอดแทรกเรื่องราวเพลงและศิลปินดังในอดีตลงไปในบทสนทนาอย่างมาก มีทั้งกล่าวถึงในเชิงยกย่องและล้อเลียน

เห็นหน้าหนังดูใส ๆ มีคุณครูถือกีตาร์ กับบรรดาเด็ก ๆ มากมาย อย่าคิดว่านี่เป็นหนังฮาใส ๆ นะ เรื่องนี้ได้เรต R ครับ อัดแน่นไปด้วยคำหยาบ ฉากร่วมเพศ คำว่า FUCK นี่นับไม่ถ้วน ซอมบี้ในเรื่องนี้เป็นพันธุ์เดินช้า แต่ก็โหดดุนะ กินหมดทั้งสัตว์ทั้งคน แล้วฉากกินคนก็โหดนะ ฉีกพุงไส้ทะลัก ฉีกหนังหน้าเนื้อหลุดเป็นแถบ เลือดกระฉูด กลัวว่าเนื้อหาหนังจะฮาไร้สาระเกินไป

หนังก็เลยสอดแทรกเรื่องความผูกพันในครอบครัวเข้ามา เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง แม่และลูก การที่ได้มองเห็นคุณค่าบุคคล ที่ไม่ได้เพียงแค่ตีความแค่ภาพลักษณ์ภายนอก ก็ถือว่าเป็นสาระที่พอกล้อมแกล้มไม่พยายามยัดเยียดจนเกินงาม

หนังไม่ยาวครับ รวมเครดิตท้ายเรื่องแล้วแค่ 93 นาที แต่ก็เกริ่นนำกว่าครึ่งชั่วโมงได้ กว่าจะพาเราเข้าชั่วโมงระทึกที่ต้องเผชิญกับฝูงซอมบี้ในสวนสัตว์ แต่ทุกนาทีที่หนังเดินหน้าไป ก็ไม่ได้รู้สึกเยิ่นเย้อหรือน่าเบื่อ ก็เพราะมุกฮาของหนังนี่ล่ะ บวกกับบุคลิกของอเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์ ด้วยที่เหมาะกับบทหนุ่มกาก ๆ อย่างเดวิดมาก สำคัญว่าต้องอ่านซับให้ทันนะครับ

มุกฮาอยู่ที่บทสนทนานี่ล่ะ แล้วแต่ละคนคุยกันเร็วปรื๊ด ซับขึ้นมาไม่ถึง 1วินาทีก็ไปแล้ว พอเรารู้สึกว่าได้สนุกลื่นไหลไปกับหนัง พอผ่านชั่วโมงแรก หนังก็กระทืบเบรกเอี๊ยด ด้วยการเปลี่ยนเข้าสู่โหมดดราม่า เพื่อจะชงให้เดวิด กับแคโรไลน์ ตกลงปลงใจกัน บทหนังจึงต้องพยายามผลักดันด้านดีงามของเดวิดให้ทั้งคนดูและแคโรไลน์ได้เห็น ก็เป็นปกตินะไม่ว่าหนังแอ็กชัน หรือคอมเมดี้

ก็มักจะต้องมีช่วงเบรกให้ตัวละครคุยกัน แทรกช่วงนั้นนิด ช่วงนี้หน่อย แต่กับ Little Monsters นี่อัดใส่มาช่วงครึ่งหลังเรื่องนี้ล่ะ แล้วเป็นฉากดราม่าที่ลากยาวเลย ทำให้อารมณ์สะดุดอย่างมาก ถ้ายาวกว่านี้อีกนิดจะหลับล่ะนะ พอพ้นฉากดราม่านี่ก็วกเข้าฉากไคลแมกซ์สุดท้าย ยังดีที่ฉากท้ายนี่ทำได้สนุกชวนลุ้น เลยลบล้างช่วงอืดกับฉากดราม่ายาว ๆ นั่นไปได้ ดูหนังออนไลน์

หนังเปิดเรื่องราวมาที่เดฟ (อเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์) หนุ่มนักดนตรีที่กำลังทะเลาะหัวเสียกับแฟนสาวอย่างรุนแรง ชายวัย 35 ที่ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองสักอย่าง เขายังอาศัยอยู่บ้านแฟนสาว เล่นดนตรีข้างทางตามถนนไปวันๆ พูดง่ายๆว่าชีวิตเขาดูไม่มีอนาคตเอาเสียเลย เขาตัดสินใจมาขออาศัยอยู่ที่บ้านของพี่สาวอย่างเทส (แคท สตีวาร์ท) ชั่วคราว ระหว่างนั้นเอง

แม้เขาจะปวดหัวกับฟิลิกซ์ (ดีเซล สา ทอร์ราก้า) ลูกชายของเทสที่ช่างซักช่างถามเป็นพิเศษ ก็ตามที แต่ในฐานะผู้อาศัยเขาจึงจำใจทำ เดฟจึงพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วยการคอยดูแลฟิลิกซ์ ทั้งเรื่องอาการภูมิแพ้ขั้นรุนแรงที่เขาต้องเผชิญจนต้องให้ยาฉีดยามที่เขาเกิดอาการ รวมไปถึงพาฟิลิกซ์ไปส่งที่โรงเรียน

แว่บแรกที่เขาเห็นคุณครูประจำชั้นที่โรงเรียนอนุบาลอย่างมิส แคโรไลน์ (ลูพิต้า ยองโก) เขารู้สึกหื่นกระหายที่อยากจะมีเซ็กซ์กับเธออย่างมาก และหนังก็เผยให้เราเห็นด้วยซ้ำว่า เขาเอารูปของเธอไปสำเร็จความใคร่ในห้องน้ำ กระทั่งวันหนึ่งมิส แคโรไลน์และเดฟ ต้องพาเหล่าเด็กๆไปทัศนศึกษาที่ฟาร์มแกะ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ซอมบี้บุกอย่างไม่ทันตั้งตัว

สถานการณ์คับขันทำให้มิส แคโรไลน์ต้องก้าวมาเป็นผู้นำแบบไม่ทันตั้งตัว จากคุณครูอนุบาลใจดีและเปี่ยมรอยยิ้ม เธอต้องปกป้องเด็กๆจากซอมบี้ในวิธีที่เราเองก็แปลกใจ ภายใต้ความกดดันที่รุมเร้า เธอได้อธิบายให้เด็กๆฟังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเกม เพียงเพื่อเธอต้องการรักษาความไร้เดียงสาของพวกเขาไว้ไม่ให้ต้องรับรู้ความจริงอันโหดร้ายเกินกว่าช่วงอายุของพวกเขาจะรับได้

ในขณะเดียวกันมิส แคโรไลน์ที่ดูเหมือนเป็นผู้นำเพียงคนเดียวในสถานการณ์ซอมบี้บุกฟาร์ม ตัวละครอย่างเดฟก็ดูจำเป็นต้องเติบโตขึ้นเช่นกัน จากช่วงต้นเรื่องที่เราสัมผัสได้ว่าเขาไม่ต่างอะไรจากเด็กชายในคราบของผู้ใหญ่วัย 35 แต่เมื่อเขาต้องลุกขึ้นมาปกป้องฟิลิกซ์และเด็กๆคนอื่นให้อยู่รอดปลอดภัยจากซอมบี้ทำให้เขาเข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่ และค้นพบตัวตนที่แท้จริงตัวเอง

จากบทเพลง Shake It Off ของนักร้องสาว เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่เดฟเกลียดนักเกลียดหนา ในช่วงต้นเรื่องที่จะขับร้องออกมา แต่ในฉากสุดท้ายที่เดฟตัดสินใจร้องเพลงนี้ ร่วมกับมิส แคโรไลน์และเด็กๆ เราจะเข้าใจได้ทันทีว่า ชายคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากแค่ไหนภายในเวลาเพียงไม่กี่วันผ่านบทเพลงเดียวกัน

สรุป

Little Monsters มีพล็อตเรื่องราวเล็กๆ ติดอยู่ในบ้านหลังเดียว แต่ก็เขียนบทให้มีเนื้อหนังจับต้องได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งๆ ที่หน้าหนังเหมือนไม่มีสาระกะฮาอย่างเดียว แต่ภายในกลับไม่กลวง แถมอัดแน่นด้วยดราม่าดีๆ ในเรื่องราวมากมาย จนอาจจะทำให้คนดูสายเอาฮาอย่างเดียวก็อาจจะอึดอัดไปกับฉากดราม่าเยอะแยะของเรื่องนี้ได้ครับ สรุปหนังผิดคาดจริงๆ เว็บดูหนังแนะนำว่าถ้าชอบดราม่าดีๆ อย่าพลาด แต่ถ้ากะเอาฮาหนักเลย หนังยังทำไม่ได้ถึงขนาดนั้นครับ

ดู 9 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comentários


bottom of page