รีวิว Annabelle Comes Home - แอนนาเบลล์ ตุ๊กตาผีกลับบ้าน
Annabelle Comes Home คือผลผลิตที่แตกหน่อในหนังสพินออฟของจักรวาล The Conjuring และถือเป็นหนังลำดับ 3 ในไตรภาคของแอนนาเบลเอง โดยคราวนี้เจมส์ วาน ผู้กุมบังเหียนจักรวาลคนเรียกผีได้มอบหมายให้ แกรี โดเบอร์แมน ผู้เขียนบทหนังชุดแอนนาเบลทุกภาคมาลองชิมลางงานกำกับหลังปั้นบทหนังสยองทำเงินให้วอร์เนอร์มาอย่างต่อเนื่องรวมถึง IT (2017) ด้วย และก็ต้องบอกว่าพอได้คนที่เข้าใจหนังแอนนาเบลมากำกับและเขียนบท เราจึงคาดหวังได้เลยว่ามันจะมีเรื่องราวน่าสนใจมากขึ้นและคราวนี้ไอเดียการนำแอนนาเบลมาอยู่ในบ้านวอร์เรนเองก็น่าสนใจที่มันจะเชื่อมโยงกับจักรวาล The Conjuring โดยตรง และยังเปิดมิติของหนังไปสู่หนังสยองขวัญวัยรุ่นที่เคยได้รับความนิยมในยุค 80 สไตล์ฆาตกรไล่ฆ่าวัยรุ่นได้อย่างน่าสนใจเพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นเหล่าผีห่าซาตานแทน รีวิว Annabelle Comes Home
เรื่องย่อ
"เพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจร้ายออกอาละวาดอีกครั้ง นักปีศาจวิทยา เอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน ตัดสินใจขังตุ๊กตาผีเอาไว้ในห้องเก็บของในบ้านของพวกเขา โดยใส่ไว้ในตู้กระจกที่สะกดไว้ด้วยมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของศริสตจักร แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความชั่วร้ายเอาไว้ได้ เมื่อคืนหนึ่งตุ๊กตาผีแอนนาเบลล์ปลุกปีศาจที่สิงสถิตย์อยู่ในห้องนั้นขึ้นมา พร้อมออกล่าเหยื่อรายใหม่ที่เอ็ดและลอร์เรนคาดไม่ถึง นั่นคือ จูดี้ ลูกสาววัย 10 ขวบของพวกเขาและกลุ่มเพื่อนของเธอ"
ในที่สุดตัวละครอย่าง Annabelle ก็หาทางขยายเรื่องราวมาเป็นไตรภาคจนได้ ซึ่งในภาคนี้ตามตัวอย่างเลย มันไม่ได้มีแค่ Annabelle ตัวเดียว เพราะมันดันมีเด็กมือบอนไม่เข้าเรื่องเข้าไปแตะต้องทุกสิ่งอย่างในห้องเก็บของอาถรรพ์ของครอบครัว Warren หาเรื่องชิบหายวางป่วงให้ตัวเอง จึงเกิดการอาละวาดของเหล่าผีๆ ตัวอื่นๆ ออกมา
ให้ตายเถอะ หนังน่ารำคาญตั้งแต่ต้นยันจบจริงๆ ไอ้หนังประเภทนี้มันจะมีตัวหายนะอยู่ ที่ภาวนาให้มันตายๆ ไปซะเถอะ เริ่มจากตัวผู้หญิงวัยรุ่นที่เข้าไปในห้องเพื่อแตะต้องสิ่งของต่างๆ จริงอยู่ที่เธอมีเหตุผลของเธอ แต่มันจำเป็นต้องไปแตะต้องทุกสิ่งอย่างในนั้นหรือไงฟระ และไอ้ตัวละครเดิมก็ซนไม่เข้าเรื่องเหมือนเดิมอยู่ดี คือมันต้องสอใส่เกือกกับทุกเรื่องจริงๆ
ที่น่าหงุดหงิดเข้าไปอีก คือหนังมันยืดยาด เวิ่นเว้อมากกกกกกกก ดำเนินเรื่องได้น่าเบื่อสุดๆ แต่ละฉากนี่กว่าตัวละครจะทำอะไรต่างๆ ก็ผ่านไปหลายนาที แบบพยายามง้างให้มันนานอะ ไอ้เราก็รอไปดิเมื่อไหร่ที่ผีมันจะออกมาอาละวาด นู่นรอไปเกินครึ่งเรื่องกว่าจะได้เห็น
อีกเรื่องที่งงมาก คือไม่เข้าใจว่าหนังจะใส่เรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊ก ระหว่างพี่เลี้ยง Judy อย่าง Mary กับ Bob มาทำไม ยิ่งตัวละครของ Bob ไม่ต้องมีเลยก็ได้ หลายๆ จังหวะที่พยายามทำให้มันตลก โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยที่หนังต้องใส่มุก หรือฉากตลกๆ มา เหมือนหนังทุกเรื่องในปัจจุบันกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่ามันต้องมีฉากตลก ซึ่งมันไม่ได้เหมาะกับทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องนี้ จากที่อยากให้ฮา จะกลายเป็นน่ารำคาญแทน แต่หนังกลับละเลยปมของตัวละคร Judy ลูกของครอบครัว Warren ที่ดูเธอจะมีอะไรน่าสนใจให้เล่ามากกว่าซะอีก
ในภาคนี้มันไม่ได้มีแค่ Annabelle ตัวเดียว มันโผล่กันออกมาเป็น Goosebumps เลยทีเดียว ผีแต่ละตัวมีเรื่องราว เรื่องเล่าของมัน แต่นอกเหนือจากการโผล่ออกมา แฮ่! ให้ตกใจ มันก็ไม่มีกิมมิคการหลอกอะไรที่น่าสนใจอีกเลย เดาทางง่าย แพนกล้องช้าๆ เดี๋ยวมาแน่ ออกมากี่ครั้งก็เหมือนๆ เดิม แล้วก็ตามนั้นแหละ และแต่ละตัวเหมือนเล่นมวยปล้ำอะ ผลัดกันหลอก ตัวนี้จบ ตัวใหม่มา หลอกพร้อมกันไม่ได้ไง๊ ที่สำคัญ ไอ้ตัว Annabelle โผล่มาไม่เกิน 5 ฉาก โผล่มาแบบเฉยๆ ด้วย ถ้าโผล่แบบมี Action น่าจะมีอยู่ 2 ฉากถ้วน
เดาว่ามันคงจะปูเรื่องราวไปให้ The Conjuring เล่นแน่ๆ กะว่าตัวไหนดัง คนสนใจ ก็เอามาสร้างเหมือนอย่าง The Nun นั่นแหละ ตอนใกล้ๆ จบที่ผีออกมาเยอะขึ้นถี่ๆ แบบใกล้ละ มันต้องมาแน่ๆ ความน่ากลัว ความสนุก ความสยองมันจะมาละ แต่สุดท้ายก็เริ่มเหมือนมานาหมด ตัดจบซะง่ายๆ ดื้อๆ อย่างนั้น
โดยหนังยังคงเอกลักษณ์ของ The Conjuring ไว้ได้อย่างครบถ้วนโดยเฉพาะหนัง HDประเด็นครอบครัวที่ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญ เราจะพบว่าครอบครัวมีผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กตั้งแต่ดราม่าของ จูดี้ เองที่ต้องกลายเป็นตัวประหลาดในโรงเรียนหลังพ่อแม่ของเธอขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์จนเพื่อนๆไม่มีใครกล้ามางานวันเกิดของเธอ
ซึ่งเธอเป็นจุดเริ่มเรื่องและเป็นการปูพื้นตัวละครให้เรารู้สึกเห็นใจและเอาใจช่วยจูดี้ได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้นหากจะให้อยู่ดีๆจูดี้มาเผชิญหน้ากับแอนนาเบลและผองเพื่อนเลยก็คงไม่สมเหตุสมผลนักเพราะเธอเองก็ไม่ได้ปลื้มกับญาณวิเศษที่มักเห็นคนตายซักเท่าไหร่ หนังเลยต้องหาวัยรุ่นจอมหาเรื่องมาสักคนนึง
ซึ่งตัวละครที่จะมาเปลี่ยนคืนธรรมดาให้กลายเป็นนรกแตกก็ได้แก่ แดเนียลา เพื่อนของแมรี เอเลน พี่เลี้ยงของเธอ โดยในตัวอย่างเรารู้แค่ว่า แดเนียลา เป็นเด็กสาวมือบอนที่อยากลองดีจนได้เรื่อง แต่ในหนังจริงผิดคาดเลย เหตุผลที่เธอเข้าไปในห้องเก็บของผีสิงของบ้านวอร์เรนก็มาจากความสูญเสียในครอบครัวเป็นหลัก
ซึ่งตรงนี้ถือว่า แกรี โดเบอร์แมน จับหัวใจของหนังชุด The Conjuring ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และยอมรับเถอะถึงแม้การกระทำของ แดเนียลา จะน่าตบแค่ไหนแต่หากเธอไม่เริ่มไขกุญแจเข้าห้องเก็บของอาถรรพ์ดังกล่าวความสนุกก็คงไม่เริ่มต้นขึ้นแน่ๆ นอกจากนี้แกรี โดเบอร์แมนเองยังแทรกมุกตลกผ่านตัวละคร บ็อบ (ไมเคิล ชิมิโน)หนุ่มหล่อที่เสร่อมาจีบแมรี เอเลนในคืนผีลืมหลุมจนหนังได้ทั้งสยองและฮาแตกสร้างความบันเทิงได้ดีเลย
แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าดูหนังผ่านเน็ตพอเราได้ดูหนังในจักรวาล The Conjuring มาพักหนึ่งก็จะเริ่มจับทางการหลอกของผีได้ โดยใน Annabelle Comes Home ไม่ได้มีความแปลกใหม่หรือสร้างความกลัวหลอกหลอนได้เหมือนหนังในชุดเดียวกันอีกแล้ว ทั้งมุกมุดตู้เตียง มุกประตูปิดเองล็อคเอง เงาสะท้อนในกระจก ล้วนผ่านตามาหมดแล้ว
ซึ่งหากใครคาดหวังความน่ากลัวแบบดูแล้วนอนไม่หลับก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าหนังไม่ได้น่ากลัวมากมายถึงขนาดนั้น ความบังเทิงส่วนใหญ่มาจากการหลอกล่อให้คนดูตายใจแล้วโจมตีด้วยภาพสยดสยองหรือเสียงซาวด์เอฟเฟกต์ที่ต้องบอกว่าใส่มาไม่ยั้งแบบกลัวลำโพงโรงหนังเหงาเลยทีเดียว
ดังนั้นใครขวัญอ่อนขอให้สบายใจได้ครับหนังแค่หลอกให้ตกใจพอสนุกๆเฉยๆ ส่วนวิญญาณร้ายต่างๆก็ยังไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นในการสร้างความกลัวได้คุ้มค่านัก แต่ละตัวมีช่วงเวลาไพร์มไทม์ให้หลอกต่างกันแต่กลับหาปีศาจที่เป็นตัวเด่นแทบไม่เจอเพราะแอนนาเบลเองก็หลอกหลอนแค่รูปลักษณ์ของตุ๊กตาแล้วอาศัยกินแรงผีตัวอื่นมาสร้างความกลัวเสียมากกว่า (ฮ่าาาา)
พูดถึงแมคเคนนา เกรซ น้องหนูที่มารับบทจูดี้ ก็หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มใครที่รู้สึกคุ้นๆก็ไปตามหาหนังอย่าง I,Tonya, Captain Marvel จะได้เจอเธอเล่นเป็นนางเอกตอนเด็กรวมถึงงานแจ้งเกิดที่เธอรับบท ธีโอวัยเด็กในซีรีส์หลอนแรงของเน็ตฟลิกซ์อย่าง The Haunting of Hill House ที่น้องเกรซตีบทแตกกระจายก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับงานแสดงนำครั้งแรก เพราะนอกจากหน้าสวยๆน่ารักของน้องแล้ว
ฝีมือการแสดงก็ไม่ยิ่งหย่อนทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อยากเข้าไปดึงมือพาไปหลบผีแน่ๆ ส่วนนักแสดงสาวคนอื่นๆทั้ง เมดิสัน ไอส์แมน หรือ เคธี ซาริฟ ก็โชว์ฝีมือได้ไม่ยิ่งหย่อนกัน แม้ว่า เมดิสัน ไอส์แมน อาจถูก เคธี ซาริฟ แย่งความเด่นไปบ้างเพราะบทให้น้ำหนักกับฝ่ายหลังมากกว่าก็ตาม ส่วนหนุ่ม ไมเคิล ชิมิโน ก็เอาหน้าหล่อๆมาโชว์ความเปิ่นปนกลัวสร้างความบันเทิงแบบไม่ให้สาวๆน้อยใจได้ดีเลยล่ะ
สรุป
เชื่อได้ว่าเรายังจะได้ดูหนังจากจักรวาล The Conjuring กันอีกหลายเรื่องเลยล่ะ โดยเฉพาะผี The Ferry Man ที่มีบทบาทกับหนังภาคนี้เป็นอย่างมากและคาดหมายว่าจะได้รับการสร้างเป็นหนังแยกต่อไป น่าจับตามองเหมือนกันนะครับว่าจักรวาลนี้จะยิ่งใหญ่พอๆกับจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆมันก็เป็นแหล่งทำเงินทำทองให้วอร์เนอร์บราเธอร์สได้เป็นกอบเป็นกำมาอย่างต่อเนื่องเลยเชียวแหละ
Commentaires